Page 59 - kpiebook65024
P. 59

58   ประเด็นส�ำคัญที่พึงมีในรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย




        เดียวกัน มีสาระส�าคัญว่า “พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของรัฐ และทรงเป็น

        ผู้ใช้อ�านาจอธิปไตยซึ่งเป็นของปวงชนชาวไทยผ่านองค์กรตามรัฐธรรมนูญ” และ
        “องค์พระมหากษัตริย์ทรงด�ารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้”


                นัยเช่นนี้มิได้หมายความว่า รัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ที่จะเชิดชูพระมหากษัตริย์
        เสมือนเป็นสมมติเทพที่ผู้คนจะต้องกราบไหว้บูชา หากแต่เป็นการสะท้อนคติการปกครอง

        แบบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญที่พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือความรับผิดชอบ
        ทางการเมือง หรือหลักการ “พระมหากษัตริย์ไม่ทรงกระท�าผิด (The King can do

        no wrong)” ท�าให้ผู้ใดจะฟ้องร้องหรือกล่าวหาพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ ไม่ได้
        ทั้งในทางแพ่งและทางอาญา (วิษณุ เครืองาม และบวรศักดิ์ อุวรรณโณ, 2520)

        หลักการนี้จึงเป็นความคุ้มครองที่รัฐธรรมนูญมีให้แก่พระมหากษัตริย์ ด้วยเหตุที่ว่า
        รัฐธรรมนูญฯ บัญญัติให้พระมหากษัตริย์ไม่อาจทรงใช้พระราชอ�านาจในการบริหาร

        บ้านเมืองด้วยพระองค์เองได้ จะต้องมีรัฐบาลหรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญอื่นเป็น
        ผู้เสนอแนะให้ทรงใช้พระราชอ�านาจในเรื่องต่าง ๆ และผู้น�ารัฐบาลหรือผู้แทนองค์กร

        ตามรัฐธรรมนูญอื่นจะเป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการนั้น การตัดสินใจ
        ด�าเนินนโยบายผ่านกฎหมายและค�าสั่งต่าง ๆ ล้วนเป็นด�าริของรัฐบาลหรือองค์กรตาม

        รัฐธรรมนูญ ส่วนพระมหากษัตริย์ยอมให้ใช้พระนามของพระองค์ในกิจการบ้านเมือง
        เท่านั้น ดังนั้นหากการบังคับใช้กฎหมายหรือค�าสั่งต่าง ๆ เกิดความเสียหายต่อบุคคลใด

        ย่อมเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลหรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญเพราะเป็นผู้ริเริ่มน�า
        กฎหมายนั้น ๆ มาบังคับใช้ หาใช่ความรับผิดของพระมหากษัตริย์ไม่


                2) พระมห�กษัตริย์ทรงเป็นพุทธม�มกะ และทรงเป็นอัครศ�สนูปถัมภก
        ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ดังนั้น รัฐธรรมนูญ

        จึงก�าหนดให้พระมหากษัตริย์ซึ่งมีพระราชสถานะเป็นตัวแทนของรัฐไทยและปวงชน
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64