Page 78 - kpiebook65015
P. 78
77
ในทางกลับกัน พรรคที่มีคะแนนมากกว่า 71,123 คะแนน ซึ่งตามหลักแล้ว
จะต้องได้ ส.ส. หนึ่งคนทุก ๆ 71,123 คะแนน กลับไม่ได้ ส.ส. หนึ่งคนทุก ๆ 71,123
คะแนน ทั้ง ๆ ที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (2) “ให้ถือเป็นจ�านวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้” และมาตรา 91 (3) “ผลลัพธ์คือจ�านวนสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นจะได้รับ” แต่กลับได้รับน้อยกว่า
จ�านวนนั้น จะถือว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (3) หรือไม่?
ปัญหาส�าคัญอาจจะอยู่ตรงที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
การเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 (4) ไปเติมค�าว่า “เบื้องต้น” ต่อท้าย แต่รัฐธรรมนูญ
มาตรา 91 (2) และ (3) ไม่มีค�าว่า “เบื้องต้น” นั่นหมายถึงว่าผลลัพธ์ตามมาตรา 91 (3)
คือจ�านวน ส.ส. บัญชีรายชื่อแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็คือตามจ�านวนเต็ม การไปค�านวณ
ในแบบที่ท�าให้พรรคการเมืองได้ ส.ส. น้อยกว่าตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 91 (3) ก�าหนด
และมีพรรคการเมืองได้ ส.ส. มากกว่าจ�านวน “ส.ส. พึงมีได้” ตามที่รัฐธรรมนูญ
มาตรา 91 (4) ก�าหนด ย่อมมีปัญหาเรื่องความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ส�าหรับ พ.ร.ป. เลือกตั้ง มาตรา 128 (6) และ (7) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่มี
ในรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ผู้วิจัยเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากเป็นการก�าหนด
ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่ได้จ�านวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค ซึ่งก็มี
สองกรณีคือ ไม่ถึง 150 คน กับ เกิน 150 คนดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เช่นเดียวกับ
พ.ร.ป. เลือกตั้ง มาตรา 128 (8) ซึ่งเป็นวงเล็บสุดท้าย ที่ให้ “ผู้สมัครตามล�าดับ
หมายเลขในบัญชีรายชื่อ” ของแต่ละพรรคการเมือง “เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ก็บัญญัติไว้เหมือนกันกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (5)
ซึ่งก็เป็นวงเล็บสุดท้าย จึงไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน