Page 149 - kpiebook64015

b. ในกรณีที่บุคคลอื่นตามกฎหมายคือปัจเจกบุคคล ให้ถือว่าบุคคลผู้นั้นมีความผิดฐาน

ละเมิดกฎหมายหากบุคคลผู้นั้นใช้อำนาจใช้จ่ายใดใดโดยหรือในนามของบุคคลอื่น
ตามกฎหมาย โดยที่รู้หรือควรรู้ได้ด้วยเหตุผลว่าการใช้จ่ายดังกล่าวเกินกว่าขอบเขตที่

กฎหมายกำหนด

(3) ให้นำความตาม (4) มาบังคับใช้ในกรณีที่
a. ตรงตามลักษณะใดลักษณะหนึ่งต่อไปนี้

i. ในช่วงเวลาระหว่างที่มีการบังคับใช้กฎหมาย ปรากฏว่ามีค่าใช้จ่ายที่ถูก

ควบคุมตามกฎหมายใดใดที่เกิดขึ้นในส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรโดยหรือ
ในนามของบุคคลอื่นตามกฎหมายในจำนวนที่มากเกินกว่าเพดานที่กฎหมาย

กำหนดไว้ใน (5) หรือ
ii. ในช่วงเวลาระหว่างที่มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเพนดานค่าใช้จ่ายตาม

ข้อ 3, 7, 10 หรือ 11 ของ Schedule 10 ปรากฏว่ามีค่าใช้จ่ายที่ถูกควบคุม

ตามกฎหมายใดใดเกิดขึ้นในเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยหรือใน
นามของบุคคลอื่นตามกฎหมายในจำนวนที่มากเกินกว่าเพดานที่กฎหมาย

กำหนดไว้ใน (5ZA) และ
b. บุคคลอื่นดังกล่าวนั้นไม่ได้เข้าข่ายบุคคลอื่นตามกฎหมายฉบับนี้

(4) ในกรณีที่เป็นไปตามความของ (3)

a. หากบุคคลอื่นนั้นมิใช่ปัจเจกบุคคล
i. บุคคลคนใดก็ตามที่ให้อำนาจนิติบุคคลอื่นนั้นในการใช้จ่ายโดยหรือในนาม

ของนิติบุคคลอื่นนั้นมีความผิดฐานละเมิดกฎหมาย หากเขารู้หรือควรรู้ได้

ด้วยเหตุผลว่าการใช้จ่ายดังกล่าวเกินกว่าขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
ii. ให้ถือว่าบุคคนอื่นผู้นั้นมีความผิดฐานละเมิดกฎหมายด้วยเช่นกัน

b. ในกรณีที่บุคคลอื่นนั้นเป็นปัจเจกบุคคล ให้ถือว่าบุคคลผู้นั้นมีความผิดฐานละเมิด

กฎหมาย หากเขารู้หรือควรรู้ได้ด้วยเหตุผลว่าการใช้จ่ายดังกล่าวเกินกว่าขอบเขตที่
กฎหมายกำหนด

(4A) บุคคลอื่นที่ถูกกล่าวหาตาม (2) หรือ (4) ต้องยืนยันความบริสุทธิ์ของตนด้วยการพิสูจน์ว่า
a. ตนได้ปฏิบัติตนตาม Schedule 8A ในการแสดงว่ารายจ่ายได้คือค่าใช้จ่ายที่ถูก

ควบคุมตามกฎหมายตามเป้าหมายของหมวดนี้
b. ไม่มีการละเมิดกฎหมายว่าด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย

(5) เพดานค่าใช้จ่ายที่กล่าวถึงใน (3)(a)(i) คือเพดานดังต่อไปนี้

a. 20,000 ปอนด์ ในกรณีของอังกฤษ และ

149