Page 73 - kpiebook64013
P. 73
กำาหนดฉบับนั้นๆ ซึ่งหากรัฐสภาอนุมัติพระราชกำาหนดนั้นก็มีผลทำาให้
พระราชกำาหนดฉบับนั้นเป็นพระราชบัญญัติ มีผลใช้บังคับได้ต่อไป
ถ้ารัฐสภาไม่อนุมัติ พระราชกำาหนดนั้นก็เป็นอันตกไป แต่ทั้งนี้ไม่กระทบ
กระเทือนกิจการที่ได้เป็นไปในระหว่างที่ใช้พระราชกำาหนดนั้น (การอนุมัติ
หรือไม่อนุมัติพระราชกำาหนดให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา) เหตุผล
ที่ให้อำานาจแก่คณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร มีอำานาจออกพระราช
กำาหนดใช้บังคับได้นั้นก็เนื่องจากว่ากรณีฉุกเฉินที่มีความจำาเป็นรีบด่วน
อันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัย
สาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องกันภัยพิบัติ
สาธารณะ เป็นกรณีที่ตราพระราชกำาหนดเกี่ยวกับภาษีอากรหรือเงินตรา
ซึ่งต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับ เพื่อรักษาประโยชน์ของแผ่นดิน
ในระหว่างสมัยประชุมสภา หากให้ออกเป็นพระราชบัญญัติแล้วจะทำาให้
ล่าช้าไม่ทันการณ์ หรือเป็นการเปิดเผย อันจะทำาให้เกิดความเสียหายได้
แต่โดยหลักการแบ่งแยกการใช้อำานาจอธิปไตยแล้ว องค์กรที่มีอำานาจ
ในการออกกฎหมายได้แก่รัฐสภา ดังนั้นเพื่อเคารพหลักการดังกล่าว
รัฐธรรมนูญจึงกำาหนดให้คณะรัฐมนตรี ต้องนำาพระราชกำาหนดที่ออกมา
ใช้บังคับนั้น เสนอให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติ
การพิจารณาและอนุมัติพระราชกำาหนด ทั้งสภาผู้แทนราษฎร
และวุฒิสภามีอำานาจพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ กล่าวคือ หาก
สภาผู้แทนราษฎรไม่อนุมัติพระราชกำาหนดนั้นก็ตกไป ถ้าอนุมัติก็ส่งต่อ
วุฒิสภา หากวุฒิสภาอนุมัติก็มีผลทำาให้พระราชกำาหนดนั้นมีผลใช้บังคับ
เป็นพระราชบัญญัติ แต่ถ้าวุฒิสภาไม่อนุมัติต้องส่งคืนสภาผู้แทนราษฎร
และหากสภาผู้แทนราษฎรลงมติยืนยันด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า
กึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ถือว่าพระราชกำาหนด
ฉบับนั้นได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วมีผลใช้บังคับได้ต่อไป
73