Page 72 - kpiebook64013
P. 72
13
12
14
พุทธศักราช 2540 มาตรา 218 วรรค 3 วรรค 5 และ วรรค 7
15
และ มาตรา 220 กำาหนดหลักเกณฑ์วิธีการในการพิจารณาและอนุมัติ
16
พระราชกำาหนดไว้ โดยสรุปสาระสำาคัญได้ว่าเมื่อคณะรัฐมนตรีประกาศใช้
พระราชกำาหนดแล้วต้องเสนอต่อรัฐสภาเพื่อให้รัฐสภาอนุมัติพระราช
12 มาตรา 218 ในกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ
ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศหรือป้องกัน
ภัยพิบัติสาธารณะ พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำาหนดให้ใช้บังคับดังเช่น
พระราชบัญญัติก็ได้
13 มาตรา 218 วรรค 3 ในการประชุมรัฐสภาคราวต่อไป ให้คณะรัฐมนตรีเสนอ
พระราชกำาหนดนั้นต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาโดยไม่ชักช้า ถ้าอยู่นอกสมัยประชุมและ
การรอการเปิดสมัยประชุมสามัญจะเป็นการชักช้า คณะรัฐมนตรีต้องดำาเนินการ
ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ
พระราชกำาหนดโดยเร็ว ถ้าสภาผู้แทนราษฎรไม่อนุมัติหรือสภาผู้แทนราษฎรอนุมัติ
แต่วุฒิสภาไม่อนุมัติและสภาผู้แทนราษฎรยืนยันการอนุมัติด้วยคะแนนเสียง
ไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
ให้พระราชกำาหนดนั้นตกไป แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนกิจการที่ได้เป็นไปใน
ระหว่างที่ใช้พระราชกำาหนดนั้น
14 มาตรา 218 วรรค 5 ถ้าสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาอนุมัติพระราชกำาหนดนั้น
หรือถ้าวุฒิสภาไม่อนุมัติและสภาผู้แทนราษฎรยืนยันการอนุมัติด้วยคะแนนเสียง
มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
ให้พระราชกำาหนดนั้นมีผลใช้บังคับเป็นพระราชบัญญัติต่อไป
15 มาตรา 218 วรรค 7 การพิจารณาพระราชกำาหนดของสภาผู้แทนราษฎรและ
ของวุฒิสภาในกรณียืนยันการอนุมัติพระราชกำาหนดจะต้องกระทำาในโอกาสแรก
ที่มีการประชุมสภานั้นๆ
16 มาตรา 220 ในระหว่างสมัยประชุมถ้ามีความจำาเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวด้วย
ภาษีอากรหรือเงินตรา ซึ่งจะต้องได้รับการพิจารณาโดยด่วนและลับ เพื่อรักษา
ประโยชน์ของแผ่นดิน พระมหากษัตริย์จะทรงตราพระราชกำาหนดให้ใช้บังคับดังเช่น
พระราชบัญญัติก็ได้
พระราชกำาหนดที่ได้ตราขึ้นตามวรรคหนึ่งจะต้องนำาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร
ภายในสามวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้นำาบทบัญญัติ
มาตรา 218 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
72 บทบาทอำานาจหน้าที่ของวุฒิสภาในระบบสภาคู่กับประสิทธิผลในการเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและการพัฒนาประชาธิปไตยไทย