Page 549 - kpiebook63010
P. 549
548 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร
จะอธิบายว่าเป็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย แต่เมื่อพิจารณาจากการสร้างกฎกติกาจ�านวนมากที่ไม่เอื้อ
ให้การแข่งขันในรอบนี้มีความเสมอภาคและเท่าเทียม แม้จะเป็นที่ยอมรับอย่างไม่เต็มที่นักของหน่วยงานหรือ
องค์กรสังเกตการณ์ทั้งในและต่างประเทศ
ในการเลือกตั้งครั้งนี้หน่วยงานหรือองค์กรที่สามารถเข้ามาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้ มีเพียงเครือ
ข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรีหรือแอนเฟรล เครือข่ายกลุ่มเยาวชนสังเกตการณ์เลือกตั้งหรือวีวอช (We Watch)
และ มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตยหรือพีเน็ต (PNET- People Network for Election in Thailand)
ถึงแม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้สังเกตการณ์การเลือกตั้งได้ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสังเกตการณ์ภายในหน่วย
เลือกตั้ง และหน่วยงานหรือองค์กรที่ได้ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ มีการสรุปผลไปในทางเดียวกัน คือ
การเลือกตั้งครั้งนี้ มีความเสรีอยู่บ้างก็จริง แต่ไม่เป็นธรรม หรือถึงแม้ว่าประชาชนจะสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ได้แต่ยังห่างไกลจากค�าว่าสุจริตและเป็นธรรมตามที่มีการกล่าวอ้างกัน รวมทั้งความพยายามในการตั้งพรรคที่อิง
กับโครงสร้างของรัฐบาลและเชิญหัวหน้าคณะรัฐประหารมาเป็นแคนดิเดต
ข้อค้นพบจากผลการเลือกตั้งและจากการวิเคราะห์ ได้แก่ การชี้ให้เห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะ
สร้างความได้เปรียบในการอยู่ในอ�านาจของระบอบการเมืองเก่าจากโครงสร้างทางกฎหมาย และ การสร้างพรรคใหม่
ที่เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมต่ออ�านาจจากระบอบการเมืองก่อนการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยที่พรรคพลังประชารัฐ
ได้เป็นแกนน�าในการจัดตั้งรัฐบาล และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคคือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะ คสช. และ นายกรัฐมนตรีในระบอบรัฐประหาร ได้รับการเสนอชื่อและลงคะแนนให้กลับเข้ามาจัด
ตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง แต่ผลของการเลือกตั้งในเขตกรุงเทพนั้นพรรคพลังประชารัฐและ
พลเอกประยุทธ์กลับไม่ประสบความส�าเร็จในกรุงเทพมหานคร แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้จ�านวนที่นั่งมาก
ที่สุดคือ 12 ที่นั่ง (หรือ 791,893 คะแนนจาก 30 เขตเลือกตั้ง) เพราะถ้ารวมทั้งคะแนนและที่นั่งของพรรคที่
แสดงตนว่าต่อต้านระบอบรัฐประหารนั้นจะพบว่าได้รับชัยชนะ ทั้งจากจ�านวนที่นั่งถึง 18 ที่นั่ง (พรรคเพื่อไทย
9 ที่นั่ง หรือ 604,699 คะแนนจาก 30 เขตเลือกตั้ง พรรคอนาคตใหม่ 9 ที่นั่ง หรือ 804,272 คะแนนจาก 30
เขตเลือกตั้ง รวมคะแนนทั้งสองพรรคเป็น 1,408,971 คะแนน)