Page 451 - kpiebook63010
P. 451

450      การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
                    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร






             4.3.2 การรักษาพื้นที่และการพัฒนากลยุทธการเลือกตั้งของเพื่อไทยท่ามกลางแรงกดดัน


             ทางโครงสร้างทางการเมืองและความเสียเปรียบในการจัดวางสถาบันของกระบวนการ

             เลือกตั้ง



                      ในการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่วิวัฒนาการมาจาก
             พรรคไทยรักไทย (พ.ศ. 2541) และพรรคพลังประชาชน (พ.ศ. 2549) และมีความใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร

             ได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 9 คน/9 เขต ในจ�านวนทั้งหมด 22 เขต คิดเป็นคะแนนรวม 604,699 คะแนน น้อยลง
             จากคราวที่แล้วเมื่อปี 2554 ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครครบ 33 เขต และมีคะแนนรวม 1,246,057 คะแนน


                      เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมของเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554
             อยู่ที่ 37,759 ขณะที่ในปี 2562 นั้น ค่าเฉลี่ยของผู้สมัครรายเขตอยู่ที่  27,486 คะแนน โดยคะแนนเฉลี่ย

             ของเพื่อไทยนั้นลดลง 10,273 คะแนน ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดคือ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์  นาครทรรพ คือ 51,765

             คะแนน (สายไหม (13)) มาคราวนี้ 2562 ได้คะแนน 34,679 คะแนน (สายไหม (11))


                      แม้ว่าคะแนนรวมของเพื่อไทยจะอยู่ที่ 604,699 คะแนน และส่งผู้สมัครเพียง 22 เขต ซึ่งหากพิจารณา
             คะแนนรวมของเพื่อไทยกับจ�านวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2562 นี้จะพบว่า คะแนนเสียงของเพื่อไทยนั้น
             คิดเป็นร้อยละ 18.57 ของผู้มาใช้สิทธิ แต่ก็ได้รับชัยชนะไปทั้งหมด 9 เขต/ 9 คน ซึ่งหากพิจารณาแล้ว คะแนนรวม

             ของเพื่อไทยก็ไม่ได้ห่างจากคะแนนรวมของประชาธิปปัตย์มากนัก คือ129,879 แต่ประชาธิปัตย์ไม่มีผู้แทนเลย

             แม้แต่หนึ่งคนในกรุงเทพมหานคร

                      จากสถิติทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปปัตย์ชี้ให้เห็นว่าท่ามกลางจ�านวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง

             ที่เพิ่มขึ้น คะแนนทั้งสองพรรคกลับลดลง ย่อมแปลว่าคะแนนของสองพรรคได้ถูกเฉลี่ยคะแนนไปสู่พรรคอื่น
             แต่ในกรณีของเพื่อไทยนั้น ข้อจ�ากัดทางโครงสร้างของระบบการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้แก่ระบบการเลือกตั้งแบบ

             จัดสรรปันส่วนผสม มีแนวโน้มที่จะท�าให้พรรคเพื่อไทยมีจ�านวนผู้แทนน้อยลง เมื่อใช้สูตรการค�านวนคะแนน
             ใหม่และระบบบัตรเลือกตั้งใหม่ (กาเพียงใบเดียวแทนการกาสองใบ ตามระบบเก่า)  ดังกรณีที่เคยมีการวิเคราะห์

             ผลคะแนนการเลือกตั้งในปี 2554 ด้วยสูตรค�านวนของระบบการเลือกตั้งใหม่ จะพบว่า เพื่อไทยจะมีจ�านวน
             สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งประเทศลดลงถึงประมาณ 40 คน (Workpoint News 2561ข) และในกติกาใหม่

             ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.  2560 หากเพื่อไทยยังมีจ�านวน ส.ส. เท่า ๆ เดิม เพื่อไทยอาจจะมี ส.ส. บัญชีรายชื่อไม่เกิน
             5 คน ดังนั้นเพื่อไทยจะมี “คะแนนเหลือ” ที่สามารถเอาไปตั้งพรรคใหม่เพื่อให้มีผลต่อคะแนน สส แบบบัญชี

             รายชื่อได้ (ไทยพับลิก้า 2561) ด้วยเงื่อนไขนี้ท�าให้เพื่อไทยเลือกยุทธศาสตร์ของการเลือกตั้งที่ไม่ส่งสมาชิก
             ครบทุกเขต (ทั้งในกรุงเทพมหานคร และ ในพื้นที่อื่น)  ในกรณีของกรุงเทพมหานคร เพื่อไทยจะส่งเฉพาะเขต

             ที่เคยชนะหรือแพ้อย่างสูสี  โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคส่วนหนึ่งออกไปตั้งพรรคใหม่ คือไทยรักษาชาติ
             และยังมีพรรคอื่นที่สมาชิกพรรคเคยเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน อาทิ พรรคเพื่อชาติ และมีการรณรงค์

             การเลือกตั้งที่เป็นอิสระจากพรรคเพื่อไทย (รายละเอียดจะอยู่ในส่วนถัดไป)
   446   447   448   449   450   451   452   453   454   455   456