Page 43 - kpiebook63009
P. 43
43
1.3 แนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจเลือกตั้ง สิ่งสำาคัญก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียง
เลือกตั้งคือ การตัดสินใจเลือกตั้ง ซึ่งมีผู้ศึกษาและแบ่งกระบวนการตัดสินใจเลือกตั้งออกเป็น 4 ขั้นตอน
คือ (สัมฤทธิ์ ราชสมณะ, 2530: 36-71)
ขั้นตอนที่ 1 กำรได้รับข่ำวสำรเกี่ยวกับกำรเลือกตั้งและข่ำวสำรเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ซึ่งจะเริ่มจากการได้รับข่าวสารว่าจะต้องมีการเลือกตั้ง การได้รับทราบข่าวสารของการสมัครรับเลือกตั้ง
การได้ทราบข่าวสารเกี่ยวกับตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง และนโยบายต่าง ๆ ของพรรคการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ซึ่งในการได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้นประชาชนในชนบทได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยผ่านสื่อ
หรือช่องทางใดบ้างและข่าวสารต่างๆ ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือเกี่ยวกับ
พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประชาชนเลือกรับข่าวสารในลักษณะใดจนกระทั่งนำาข่าวสารนั้นไปเป็น
หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ให้เหลือเท่ากับจำานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องการ
จะลงคะแนนเสียงให้ จากสื่อหรือช่องทางหลายๆ ทางนั้นประชาชนเลือกที่จะเชื่อข่าวสารจากแหล่งใดมากที่สุด
และลักษณะของข่าวสารที่ผ่านไปสู่ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนั้นก็เป็นลักษณะข่าวสารที่หลากหลาย เพื่อที่จะจูงใจ
ให้ลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดคนหนึ่ง ประชาชนเลือกที่จะรับข่าวสารลักษณะใดมาเป็นเกณฑ์
ในการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งเพื่อที่จะลงคะแนนเสียงให้
ขั้นตอนที่ 2 กำรสร้ำงหลักเกณฑ์และกำรให้น�้ำหนักของหลักเกณฑ์ในกำรตัดสินใจเลือกตั้ง
สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร เมื่อผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งยอมรับว่าจะต้องมีการตัดสินใจ และได้รับข่าวสารต่างๆ
เกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือนโยบายของพรรคการเมืองที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสังกัดอยู่ หรือผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
ที่ผูกพันกับพรรคการเมืองหรือผูกพันกับผู้สมัครรับเลือกตั้งก็จะสร้างหลักเกณฑ์ในการที่จะคัดเลือกผู้สมัคร
รับเลือกตั้ง เพื่อที่จะคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตนเองถูกใจมากที่สุด ให้เหลือจำานวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ที่พึงมีได้ หรือเท่าที่ตัวเองต้องการจะลงคะแนนเสียงให้ ผู้ลงคะแนนเสียงก็จะมาสร้างหลักเกณฑ์ของตนเองว่า
ในการลงคะแนนเสียงครั้งนี้จะให้ความสำาคัญกับพรรคการเมืองหรือให้ความสำาคัญกับคุณสมบัติส่วนตัว
ของบุคคล ในขั้นตอนนี้จะเริ่มมีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเห็นชอบกับ
ตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ข่าวสารต่างๆ ทั้งในด้านส่วนตัวของผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือนโยบายของพรรคการเมือง
ก็จะเริ่มเข้าสู่ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงก็จะเริ่มประเมินข่าวสารต่างๆ ที่
ได้รับมานั้นสอดคล้องกับหลักเกณฑ์หรือจุดมุ่งหมายของผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งหรือไม่ ผู้ลงคะแนนเสียง
เลือกตั้งบางคนอาจจะให้ความสำาคัญกับนโยบายของพรรคการเมือง บางคนให้ความสำาคัญกับคุณสมบัติส่วนตัว
ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ขั้นตอนที่ 3 กำรประเมินและกำรจัดล�ำดับผู้สมัครรับเลือกตั้ง เมื่อได้กำาหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ และ
ให้นำ้าหนักของหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้ว ตามที่ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งใช้เป็นเกณฑ์
ในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง หลังจากนั้นจะเป็นการประเมินผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคน (หรือเท่าที่
ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจะประเมิน) ว่าตามหลักเกณฑ์ที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคน
ควรจะได้รับการประเมินเท่าไร ตามการประเมินของผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแต่ละคน