Page 186 - kpiebook63005
P. 186

185








                          พิจารณาจากเขต 1 ดร.ภพธร แก้วขัน อดีตทนายความ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น

                  และอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ภรรยาของภพธร คือ นางปณิดา แก้วขัน เป็นสมาชิก
                  สภาอบจ.ในเขตอำาเภอเมืองขอนแก่นมาตั้งแต่ปี 2555 ขณะนั้น ปณิดา ได้ 5,341 คะแนน ซึ่งจากฐาน

                  การเมืองท้องถิ่นของตระกูลแก้วขัน มิได้ช่วยให้ดร.ภพธรมีคะแนนใกล้เคียงกับนายฐิตินันท์ แสงนาค กับ
                  นายจักริน พัฒน์ดำารงจิตร เท่าไรนัก ส่วนเขต 3 คะแนนของนายกิตติ คำาแก่นคูณ อดีตนายกเทศมนตรี

                  ตำาบลวังชัย อำาเภอนำ้าพองก็ยังสู้ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ไม่ได้ทำานองเดียวกับเขต 4
                  พิชิต สุรพล อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำาบลศรีสุขสำาราญ อำาเภออุบลรัตน์ยังได้รับคะแนนที่ห่างจาก

                  ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ ส่วนเขต 5 นายวิบูลย์ เรืองประเสริฐกุล อดีตสมาชิกองค์การ
                  บริหารส่วนจังหวัดในเขตอำาเภอเวียงเก่า ในการเลือกตั้งปี ส.อบจ. 2555 วิบูลย์ได้ 6,050 คะแนน

                  แต่การเลือกตั้งในปี 2562 นี้ พ่ายให้กับนายภาควัต ศรีสุรพล จากพรรคเพื่อไทยด้วยคะแนนค่อนข้างห่าง
                  แม้แต่ ด.ต.พิชิต ศรีวิไล ผู้สมัครจากพรรคเพื่อชาติ อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเขตอำาเภอ

                  หนองนาคำา ซึ่งได้ 5,498 คะแนน จากการเลือกตั้ง ส.อบจ.ในปี 2555 กลับได้เพียง 3,890 คะแนน
                  ในการเลือกตั้งปี 2562 ในเขต 6 พรรคพลังประชารัฐเลือกนายสมพงษ์ ปู่เพ็ง อดีตสมาชิกองค์การบริหาร

                  ส่วนจังหวัดในเขตอำาเภอชุมแพ ในการเลือกตั้ง ส.อบจ.ปี 2555 สมพงษ์ได้ 9,739 คะแนน สมพงษ์
                  เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมานานแต่ในการเลือกตั้งคราวนี้ เขาก็ยังพ่ายให้กับผู้สมัครส.ส.สมัยแรกจาก

                  พรรคเพื่อไทย ขณะที่เขต 7 เป็นเขตเดียวที่เอกราชมิได้เลือกผู้สมัคร โดยนายพินิจ จารุสมบัติเป็นผู้เลือก
                  อดีตส.ส.หลายสมัยคือนายสมศักดิ์ คุณเงิน ซึ่งแพ้พรรคเพื่อไทยเช่นกัน ในเขต 8 พรรคพลังประชารัฐ

                  เลือกนายคงฤทธิ์ อัศวพัฒนากุล อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในเขตอำาเภอพล ซึ่งเคยได้
                  13,241 คะแนน จากการเลือกตั้งปี 2555 แต่ในการเลือกตั้งระดับชาติล่าสุดกลับได้คะแนนน้อยกว่าช่วง

                  ลงเลือกตั้งท้องถิ่นเสียอีก โดยนายคงฤทธิ์ได้ 10,984 คะแนน ในเขต 9 พรรคพลังประชารัฐส่งนายวาสนา
                  ไชยศึก แม้ไม่ได้เป็นนักการเมืองท้องถิ่น แต่ก็เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่เนื่องจากเป็นอดีตผู้อำานวยการ

                  โรงเรียนหนองสองห้อง โรงเรียนภาครัฐที่ใหญ่ที่สุดประจำาอำาเภอ สุดท้ายคือเขต 10 อดีตสมาชิกองค์การ
                  บริหารส่วนจังหวัดในเขตอำาเภอบ้านไผ่ 20 กว่าปีคือนายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ จากพรรคภูมิใจไทย

                  การเลือกตั้ง ส.อบจ.ในปี 2555 เขาได้ 12,704 คะแนน และนายเจริญ แซ่เต็ง อดีตนายกเทศมนตรีตำาบล
                  บ้านโต้น อำาเภอพระยืน จากพรรคพลังประชารัฐ แต่ประชาชนเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่ได้

                  เป็นคนในพื้นที่เขต 10 คือนายบัลลังก์ อรรณนพพร แม้แต่อดีตส.ส.หลายสมัยและอดีตนายกเทศมนตรี
                  เมืองบ้านไผ่คือนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ จากพลังท้องถิ่นไท ก็ได้เพียง 7,936 คะแนน


                          ข้อมูลข้างต้นสื่อถึงอะไร นั่นหมายความว่า แม้นักการเมืองท้องถิ่นจะมีผลงานและบทบาทโดดเด่น

                  มากแค่ไหนก็ตาม ทว่าประชาชนเลือกโดยพิจารณาว่าเขาอยู่พรรคใดเป็นหลักมากกว่า ในแง่นี้ ระบบ
                  อุปถัมภ์และระบบหัวคะแนนที่มีบทบาทเป็นอย่างสูงสำาหรับการเลือกตั้งนักการเมืองท้องถิ่น (เนื่องจาก

                  การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเน้นตัวผู้สมัครเป็นหลัก) กลับใช้ไม่ได้ผลมากนักกับการเลือกตั้งในระดับชาติ
                  พรรคเพื่อไทยอาศัยนโยบายพรรคที่โดดเด่นในการเชื่อมร้อยเข้าหาชาวบ้านโดยตรง ข้อมูลจากทีมหาเสียง

                  ของพรรคพลังประชารัฐบางเขตได้ให้สัมภาษณ์เสียด้วยซำ้าว่า พวกเขาได้รับเสียงติติงจากชาวบ้านว่า
   181   182   183   184   185   186   187   188   189   190   191