Page 173 - kpiebook63005
P. 173

172   การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดขอนแก่น








             ขอนแก่น เอฟซี ทำาให้เขาเป็นที่นิยมในพื้นที่  ขณะเดียวกัน เจริญ แซ่เต็ง อดีตนายกเทศมนตรีตำาบล
                                                    253
             บ้านโต้นอำาเภอพระยืน ก็ชนะบัลลังก์ในเขตอำาเภอพระยืนประมาณ 400 คะแนน  แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะ
                                                                                  254

             253  ข้อมูลจากการลงพื้นที่ของผู้ช่วยนักวิจัยที่อำาเภอบ้านไผ่ พบว่า นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ เป็นบุคคลที่ได้รับ
             ความสนใจอย่างมากจากประชาชนในเขตพื้นที่อำาเภอบ้านไผ่ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับประชาชนในเขตพื้นที่ดังกล่าว
             จากผลงานการทำางานในตำาแหน่ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด อำาเภอบ้านไผ่ เป็นจำานวนหลายสมัย กลุ่ม
             ตัวอย่างในอำาเภอบ้านไผ่จำานวนหนึ่งกล่าวว่า ตนเองชื่นชอบนายองอาจ อาทิ หญิงวัย 43 ปี อาชีพแม่บ้านกล่าวว่า
             “พี่ชอบพ่อใหญ่แม็คนะ (ชื่อเล่นนายองอาจ) แกทำางานดี แบบว่าผลงานแกก็เยอะ อยากให้แกได้ จะได้กลับมาทำางานอีก”
             ชายวัย 61 อาชีพเกษตรกร กล่าวว่า แม้ตนชอบพรรคเพื่อไทยแต่ “ลุงสิเลือกองอาจนี่แหละ” หญิงวัย 55 ปี อาชีพทอเสื่อ
             ระบุเช่นกันว่า “องอาจผลงานเยอะ คนแถวนี้ชอบองอาจทั้งสิ้น” ส่วนคนที่กล่าวว่า จะเลือกพรรคเพื่อไทย พิจารณาบาง
             ความเห็น เช่น คุณตา วัย 68 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้านคามวารี ตำาบลเมืองเพีย ให้ความเห็นว่า “พ่อมักพ่อใหญ่
             บัลลังก์ เบอร์อะไรไม่รู้ แต่ว่าจะเลือกนั่นแหละ คนแถวนี้เขาชอบกันหมด” ชายวัย 58 ปี อาชีพเกษตรกร เห็นว่า “ลุงชอบ
             บัลลังก์ เดี๋ยวนี้เขาบ่โง่กันเด้อ สิเอามาหยังพรรคลุงตู่ เศรษฐกิจกะบ่ดี” แม่ค้าร้านขายผลไม้ข้างทางระบุว่า “แม่อยากให้
             พ่อใหญ่บัลลังก์ชนะ ถ้าในเขตเรานะ ไม่รู้สิ แม่ว่านโยบายเขาก็ดี จากที่แม่ไปฟังเขาปราศรัย” และ หญิงคนหนึ่ง อาชีพ
             ช่างเสริมสวยกล่าวว่า “แม่ก็ว่าถ้าให้แม่เลือกจริงๆ แม่ก็อยากให้ทักษิณละเนาะ อยากให้เขากลับมาบริหารงานบ้าน
             เมืองเราอีก ถ้าเป็นไปได้ แต่ถ้าแม่จะเลือกตอนนี้ก็เป็นเบอร์ 3 นั่นแหละลูก บัลลังก์” ส่วนความเห็นของคนเลือกพรรค
             อนาคตใหม่ เช่น นักศึกษาชาย อายุ 24 เห็นว่า “ความจริงผมอยากให้พรรคอนาคตใหม่ชนะ ผมว่าใครอยู่พรรคนี้ ผมก็
             เลือกเขานั่นแหละครับ ผมอยากให้คนใหม่ๆ เข้ามาบริหารประเทศ อยากให้ประเทศเราเดินหน้า ผมว่าถ้าได้คนเดิมๆ
             ก็มีแต่ความคิดเดิมๆ ความคิดเก่าๆ ไม่ก้าวหน้าซะที” ฯลฯ
             254  กลุ่มตัวอย่างในอำาเภอพระยืน ให้ความเห็นหลากหลาย เช่น ผู้ที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ คุณตาอาชีพเกษตรกร
             วัย 71 ปี กล่าวว่า “ก็ชอบพรรคนี้ ถ้าเราเลือกเบอร์ของพรรคนี้ เขาก็จะได้ชนะ ถ้าเขาอยู่ต่อก็ดี เพราะดูแล้วก็ดูแลประชาชน
             ดี ให้เงินสวัสดิการ เงินคนแก่บ้าง ชาวบ้านยากจนก็ได้พอมีกินมีใช้ อย่างตาก็ได้เงินสวัสดิการกับเงินคนแก่ เขาก็บอก
             ถ้าได้เป็นจะให้เพิ่มด้วยนะ” ส่วนหญิงร้านขายของชำา วัย 48 ปี กล่าวว่า “ในความเห็นส่วนตัวชอบเบอร์ผู้สมัครนี้อยู่แล้ว
             ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้จักกันมากมายแค่รู้ห่างๆ เขาก็เป็นคนดีนะ นโยบายก็ดี มีโครงการจะทำาให้ชาวบ้านมากมาย และเชื่อว่า
             เขาทำาได้จริงอย่างที่พูด อีกอย่างพรรคที่เขาอยู่นโยบายก็ดีและน่าเชื่อถือมากกว่าพรรคอื่น บ้านเมืองก็สงบไม่มีการ
             ฆ่ารบฟันกันเหมือนสมัยก่อนที่ทะเลาะกัน โกงกินบ้านเมืองสารพัด สร้างแต่ความวุ่นวาย แต่พอชุดนี้มาไม่เห็นเคยมี
             ปัญหากันสักที” คุณยายวัย 72 บ้านโนนบ่อ กล่าวว่า “ที่เป็นอยู่เป็นแบบไหนก็แบบนั้นแหละ ไม่ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง
             ที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว อยากให้ชุดนี้อยู่ไปเรื่อยๆ ดีแล้ว” ผู้สัมภาษณ์จึงถามเหตุผลต่ออีก คุณยายกล่าวว่า “ก็เขามีสวัสดิการดี
             บัตรคนจน เงินคนแก่ อยู่บ้านเฉยๆ ก็มีเบี้ยยังชีพให้ทุกๆ เดือน” ขณะที่ชายวัยเพิ่งจะเกษียณจากอาชีพเจ้าหน้าที่
             ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ปัจจุบันเปิดร้านขายของชำาอยู่ที่บ้าน กล่าวว่า “ในความคิดเห็นส่วนตัวของลุงนะ ลุงชอบปัจจุบัน
             จากนโยบายการช่วยเหลือคนยากจน ให้เงินคนแก่ ลุงไม่ได้เงินอะไรกับเขาหรอก แต่เห็นชาวบ้านที่ยากจนเขาได้เงินทุกเดือน
             ก็ดีทำาให้เขามีเงินพอกินพอใช้ พอซื้อข้าวสารปลากระป๋อง อีกอย่างบ้านเมืองก็สงบด้วย” ส่วนผู้ที่เลือกพรรคเพื่อไทย
             เช่น คุณลุงวัย 65 ปี อาชีพเกษตรกร ระบุว่า “ชาวนาจะได้มีรายได้ เศรษฐกิจจะได้ดีขึ้น ชาวไร่ชาวนาจะได้พึ่งพาตนเอง
             ได้มากขึ้น” หญิงวัย 57 ปี อาชีพแม่บ้าน กล่าวว่า “ชอบนโยบายที่ทำาให้ประชาชนอยู่ดี แล้วก็ทำาได้จริงตามที่พูดไว้
             เศรษฐกิจดี ต่างชาติต่างยอมรับอย่างเพื่อไทย” หญิงวัยประมาณ 35-40 ปี เปิดร้านขายของชำา กล่าวว่า “ถ้าถามว่า
             ชอบอดีตหรือปัจจุบัน ฉันชอบอดีตมากกว่าแน่นอนแหละ อดีตนี่อะไรก็ดี ยิ่งเรื่องเศรษฐกิจนะ ไม่ต้องพูดถึง ชาวบ้าน
             ชาวไร่ชาวนาค้าขายข้าวขายอ้อยก็ได้กำาไร ช่วยเหลือค่าชดเชยต่างๆ” ส่วนหญิงวัยใกล้เคียงกัน เปิดร้านของของชำา
             เล่าว่า “ตอนนี้ราคาวัว 10,000–20,000 บาท ราคาตกตำ่ามาก ล้มวัวเลี้ยงงานแต่งให้ลูกได้เลยแต่ก่อนนี่ อยากจะได้กิน
             เพราะแต่ก่อนวัวแพงมาก บางตัวเป็นแสน บ้านไหนเลี้ยงวัวนี่ถือว่าบ้านนั้นมีเงิน แถมตอนนี้ขายของก็ไม่ได้กำาไร”
             ชายอายุ 45 ปี อาชีพเกษตรกรกล่าวว่า “ก็มีพรรคเดียวแหละที่เขาช่วยเหลือชาวนาให้มีอยู่มีกินได้ ก็พรรคเพื่อไทย
             สมัยทักษิณนั่นแหละ” และ หญิงวัย 67 อาชีพแม่บ้านกล่าวว่า “แต่ก่อนชาวบ้านแถวนี้มีอาชีพเสริมจากการที่รัฐบาล
             นายกทักษิณเป็นนายก แกหางานให้ชาวบ้านทำา ใครที่อยู่บ้านเฉยๆ หรือมีอาชีพทำาไร่ทำานา ว่างจากทำานา หมดฤดูทำานา
             ก็จะได้เงินจากการทำางานนี้แหละ มีงานถักงานทอ บ้างก็มีให้ประกอบชิ้นส่วนเล็กๆ ของรองเท้าบ้าง กับงานสาน
             พอถึงเวลา โรงงานก็จะมารับพร้อมเอาเงินมาให้ พอหมดยุคทักษิณไปแล้วไม่มีคนทำาต่อ โรงงานนายทุนเขาก็เลิกจ้าง
             บางโรงงานก็เป็นของต่างประเทศ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรัฐบาลชุดเผด็จการหรือเปล่า บางทีต่างชาติเขาไม่เห็นด้วยที่ประเทศ
   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178