Page 168 - kpiebook63005
P. 168
167
เป็นอย่างไร แต่จะพยายามไม่โจมตีใคร นอกจากนี้ยังพูดถึงจุดยืนฝั่งประชาธิปไตยของตนเอง เขาเล่าว่า
หลังการรัฐประหารปี 2557 สมัยนั้นเขาเป็นประธานนักศึกษาไทยในประเทศอังกฤษ ได้จัดกิจกรรม
ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่ทราฟัลการ์ สแควร์ กรุงลอนดอน เมื่อถามถึงคะแนนที่ได้รับ วันนิวัติกล่าวว่า
“พอใจมากครับ นำ้าตาไหลที่เห็นคะแนน ตอนแรกหวังแค่ชนะ ไม่ได้หวังว่าจะได้คะแนนเท่าไร” เนื่องจาก
ก่อนการเลือกตั้งไม่นาน โพลล์ของพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า คะแนนของวันนิวัติเริ่มอ่อนลง จากนั้น
ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิชจึงมาช่วยหาเสียงให้ “คุณป้ามาเป็นผู้ช่วยหาเสียงครับ แจ้งกกต.อย่างถูกต้อง
คุณป้าได้เบี้ยเลี้ยงวันละสามร้อยบาท” (หัวเราะ) วันนิวัติยอมรับว่า คนเสื้อแดงในพื้นที่กับกลุ่มพลังเงียบ
เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำาให้เขาชนะ เขาเล่าว่า มีชาวบ้านจำานวนมากมาคุยกับเขาถึงญาติพี่น้องของพวกเขา
ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมและไม่เคยได้รับความยุติธรรม พวกเขายังไงก็จะเลือกเพื่อไทยเพราะชาวบ้าน
บอกว่า “คนเสื้อแดงเข้มแข็ง ไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อไทยอยู่ในใจเสมอ” ส่วนพลังเงียบคือชาวบ้านที่ไปฟัง
ผู้สมัครจากทุกพรรคปราศรัย “คนกลุ่มนี้เราไม่รู้ว่าพวกเขาเลือกใคร ผมบอกชาวบ้านเสมอว่าไม่ต้องเลือก
ผมก็ได้ ขอแค่ให้เลือกพรรคฝั่งประชาธิปไตย แต่สุดท้ายคนส่วนใหญ่เหล่านี้ก็เลือกผม” (สัมภาษณ์วันที่
14 กรกฎาคม 2562)
จากเรื่องราวข้างต้น จึงทำาให้วันนิวัติได้คะแนนอย่างถล่มทลาย ขณะที่คะแนนของ
นายวาสนา ไชยศึก อดีตผู้อำานวยการโรงเรียนหนองสองห้องและผู้กว้างขวางในพื้นที่ จากพลังประชารัฐ
ได้ 11,214 คะแนน นายพานุห์ ประทุมชัย ข้าราชการบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จากพรรค
อนาคตใหม่ได้ 8,633 คะแนน นายจารุวัฒน์ ศิริวัจนพร จากพรรคภูมิใจไทย อดีตสมาชิกสภาองค์การ
บริหารส่วนจังหวัดในอำาเภอหนองสองห้องและยังมีศักดิ์เป็นน้องเขยของดวงแข อรรณนพพร ได้ 4,576
คะแนน ส่วน ดร.ฌานพากิตติ์ สีหามาตย์ คนในพื้นที่อำาเภอหนองสองห้อง จากพรรคประชาธรรมไทย
ได้คะแนนเป็นอันดับ 5 คือ 2,550 เสียง 251
เมื่อรวมคะแนนเสียงของพรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำานาจจากระบอบ คสช. จาก
10 อันดับแรก จะพบว่า พรรคเพื่อไทย 51,843 เสียง พรรคอนาคตใหม่ 8,633 เสียง พรรคเสรีรวมไทย
1,057 เสียง พรรคประชาชาติ 786 เสียงและพรรคเศรษฐกิจใหม่ 777 เสียง เท่ากับ 63,096 เสียง ถือว่า
สูงเป็นอย่างยิ่ง
251 จากการสัมภาษณ์ ดร.ฌานพากิตติ์ เล่าว่า ตนเองเป็นคนอำาเภอหนองสองห้องโดยกำาเนิด ทำางานด้านเทคโนโลยี
สารสนเทศที่กรุงเทพ ฯ ตนเองนำารายได้จากการทำางานมาพัฒนาอำาเภอหนองสองห้องอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ
ช่วยซ่อมแซมถนน สร้างฝายนำ้าคูคลองร่วมกับชาวบ้าน เปลี่ยนหลอดไฟตามชุมชน สร้างโบสถ์ตามวัดต่างๆ ฯลฯ
แต่เดิมตนเองจะลงสมัครในนามพรรคเสรีรวมไทย แต่เหตุผลเพราะอยากอยู่กับเพื่อนๆ จึงเลือกสังกัดพรรคประชาธรรมไทย
ในช่วงการหาเสียง ตนเองลงครบทุกหมู่บ้านใน 4 อำาเภอของเขต 9 ฌานพากิตติ์เล่าว่า จริงๆ แล้วตนเองต้องได้
คะแนนมากกว่านี้ เพราะเฉพาะฐานเสียงของตนเองในอำาเภอหนองสองห้องมีถึง 6,000 เสียง และมั่นใจว่าตนเอง
ต้องได้อันดับ 1 ใน 3 อย่างไรก็ดี หากนับถึงจำานวน 253 เขตที่พรรคประชาธรรมไทยส่งผู้สมัครลงทั่วประเทศ คะแนน
ของฌานพากิตติ์ถือว่าเป็นคะแนนอันดับ 1 ของพรรค (สัมภาษณ์วันที่ 6 กรกฎาคม 2562)