Page 99 - kpiebook63001
P. 99

81






                     ลักษณะที่ 2 เป็นการแข่งขันระหว่างผู้สมัคร 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ

               ได้แก่ เขต 2,3 และ 4 โดยเขตเลือกตั้งที่ 2  นายฉลาด ขามช่วง จากพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สมัครที่เป็น
               อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งมาแล้ว 7 สมัยนับตั้งแต่ พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา ทั้งยังเป็น

               ทนายความซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวบ้าน  แต่ในขณะเดียวกันนางรัชนี พลซื่อ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ
               ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 สมัย และเป็นอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด อย่างไรก็ดี
               แม้นางรัชนีจะเคยแพ้การเลือกตั้งทั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการเลือกตั้งนายกองค์การ

               บริหารส่วนจังหวัดในปี พ.ศ. 2551 แต่ก็ยังคงทำงานในพื้นที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับการทำหน้าที่ในตำแหน่ง
               “หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด” ทำให้ถือได้ว่าเป็นผู้ที่ได้รับ

               ความนิยมจากประชาชนในพื้นที่ ทั้งยังมีฐานเสียงจากกลุ่มสตรีแม่บ้าน และ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำ
               หมู่บ้าน 92


                     ส่วนพื้นที่เขต 3 ที่ได้รับการประเมินว่าเป็นเขตที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นมากที่สุด เนื่องจากเป็น
               การแข่งขันกันระหว่างนายนิรมิต สุจารี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคเพื่อไทย และนายเอกภาพ
               พลซื่อ จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตเลขาธิการพรรคเสรีธรรม และ

               เคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายเอกภาพถือเป็นผู้สมัครที่มี
               ความโดดเด่นและถือว่าเป็นความหวังของพรรคพลังประชารัฐว่าจะได้รับการเลือกตั้ง ทั้งยังเป็นประธาน

               ยุทธศาสตร์ของร้อยเอ็ด และวางแผนการหาเสียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของพรรคพลังประชารัฐ
               ด้านเขตเลือกตั้งที่ 4 เป็นการแข่งขันกันระหว่างนายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
               พรรคเพื่อไทย กับ นางสาวตวงรัตน์ วงศ์เวไนย์ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเคยเป็น

               ผู้สมัครซึ่งได้คะแนนลำดับสองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2554 อย่างไรก็ดี แม้จะแพ้
               การเลือกตั้ง แต่ตวงรัตน์ ยังคงมีบทบาทในการทำงานการเมืองท้องถิ่น โดยมีบทบาทในการผลักดันโครงการ

               ที่เกื้อหนุน สร้างอาชีพของกลุ่มสตรี ตลอดจนรวมถึงการเข้าไปผลักดัน เพิ่มเงินเดือน และเงินสวัสดิการต่างๆ
               ของกลุ่มสตรีให้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังเป็นผู้สมัครที่ได้รับการกล่าวถึงในการลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน 93

                     ลักษณะที่ 3 เป็นเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยยังมีฐานเสียงที่เข้มข้น หรือเป็นการแข่งขัน

               กับผู้สมัครหน้าใหม่ซึ่งยังไม่มีฐานเสียงที่เข้มแข็งพอ ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 5 ผู้สมัครที่มีความโดดเด่น คือ จิราพร
               สินธุไพร ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายนิสิต และ นางเอมอร สินธุไพร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย
               ทั้งยังเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดง ในนามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช)

               ถือว่าเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่มีฐานเสียงคะแนนนิยมเดิมของครอบครัวซึ่งยังได้รับความนิยมในพื้นที่
               อย่างเหนียวแน่น ในขณะที่ผู้สมัครจากพรรคอื่น ๆ เช่น นาย เฉลิมศักดิ์ แสนปาง สังกัดพรรคพลังประชารัฐ



                     92   “รัชนี พลซื่อ ชิงเก้าอี้ร้อยเอ็ด เขต 2”, สืบค้นจาก https://www.amarintv.com/news-update/election2562/face-
               to-face/news-17401/343724/ (28 กุมภาพันธ์ 2562).
                     93   “ศึกล้างตา โอ๋น้อย-นิรันดร์ เขต 4 เมืองร้อยเกิน”, สืบค้นจาก https://www.komchadluek.net/news/scoop/362170
               (12 กุมภาพันธ์ 2562) และ “บ่ได้ยินเสียง พาทักษิณกลับบ้าน สมรภูมิที่เปลี่ยนไป”, สืบค้นจาก https://www.msn.com/th-th/
               news/national/ /บ่ได้ยินเสียง-พาทักษิณกลับบ้าน-สมรภูมิที่เปลี่ยนไป/ar-BBUe3P7(1 มีนาคม 2562).








                     การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอ็ด
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104