Page 39 - kpiebook62014
P. 39
เรื่องของการจ่ายแจกทรัพย์สินเงินทองแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้น งานวิจัยของ Allen D. Hicken (2007)
พบว่ากรณีของการซื้อสิทธิขายเสียงยังคงมีอยู่ แม้จะมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินและมีมาตรการ
การลงโทษที่เข้มงวดส าหรับผู้กระท าผิด ทั้งนี้เพราะ การซื้อเสียงมีหลายรูปแบบ อาทิ การให้ของขวัญ เงินสด
การโอน การจ่ายเงินสนับสนุนกิจกรรม การให้เงินของขวัญวันเกิดแก่นักการเมือง การให้คูปองฟรีต่างๆ
การโอนเงินให้โดยอ้างว่าเป็นเงินรางวัล การศึกษาดูงานฟรี ซึ่งการกระท าข้างต้นมีความสอดคล้องกับวัฒนธรรม
บางประการอาทิ ประกอบกับมุมมองเรื่องการรับเงินจากผู้สมัครไม่ใช่เรื่องผิดที่แฝงฝังอยู่ในวัฒนธรรม ก็เป็นอีก
ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดความเต็มใจในการขายเสียง (sell votes) จึงกล่าวได้ว่าเหตุการณ์ซื้อสิทธิขายเสียงเป็นสิ่ง
ที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่าที่ใด เมื่อมีการแข่งขันเกิดขึ้นและมีการหวังผลได้รับชัยชนะสูง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้วิจัยให้ความสนใจในงานวิจัยชิ้นนี้คือท าอย่างไรเพื่อให้การแข่งขันไม่น าไปสู่การ
ขัดแย้งกัน กระทั่งน าไปสู่การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ที่ไม่อาจท างานร่วมกันเพื่อการพัฒนาได้อีกต่อไป เพราะปฏิเสธ
ไม่ได้ว่าเมื่อการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมย่อมน าไปสู่ข้อกังขาต่อผู้ที่ชนะการเลือกตั้งได้ไม่ยากว่าอาจจะ
น าไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์สู่พวกพ้องของตนต่อไป ส่งผลให้ฝ่ายที่พ่ายแพ้ตั้งตนเป็นฝ่ายตรวจสอบอย่าง
เข้มข้น กระทั่งบางครั้งเมื่อการตรวจสอบเข้มข้นจนถึงขีดสุดอาจน าไปสู่การหยุดชะงักทางการเมืองเนื่องจาก
นโยบายและข้อเสนอของฝ่ายชนะการเลือกตั้งไม่ได้รับการผ่านร่างจึงไม่อาจใช้งบประมาณได้ ซึ่งเหตุการณ์
เช่นนี้เกิดขึ้นให้เห็นในหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อการพัฒนาเป็นอย่างมาก
จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าเทศบาลต าบลปอภาร มีเงื่อนไขที่ตรงกับที่ผู้วิจัยก าหนดไว้ส าหรับการ
คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย ประกอบด้วย การเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งในระดับปานกลาง ที่มีศักยภาพในการจัดการ
แก้ไขได้ ดังปรากฏว่าคู่ขัดแย้งในการเลือกตั้งท้องถิ่น ได้คลี่คลายความข้องใจกันลงบ้างแล้ว ประกอบกับ
ปัจจุบันท้องถิ่นแห่งนี้อยู่ภายใต้การ ปกครองของปลัดเทศบาล รักษาการนายกเทศมนตรี และผลจากการหารือ
กับปลัดเทศบาลรักษาการนายกเทศมนตรีพบว่าท่านเห็นด้วยกับหลักการในการด าเนินโครงการวิจัยเชิง
ปฏิบัติการนี้และพร้อมให้ความร่วมมือ ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงคัดเลือกเทศบาลต าบลปอภารเป็นพื้นที่ส าหรับด าเนิน
โครงการวิจัยนี้
ผลการชี้แจงท าความเข้าใจ
เมื่อผู้วิจัยได้ตัดสินใจคัดเลือกเทศบาลต าบลปอภารเป็นพื้นที่ด าเนินโครงการวิจัยแล้ว ขั้นต่อไปคือการ
ลงพื้นที่สนทนากึ่งสัมภาษณ์กับ ผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น ทั้งอดีตและปัจจุบัน รวมไปถึงปราชญ์ชาวบ้าน ถึงความ
เป็นไปได้ในการด าเนินโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้ เพราะความส าเร็จในการด าเนินโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
ขึ้นอยู่อย่างมากกับความสมัครใจของผู้น าชุมชน ดังนั้น แม้ผู้วิจัยจะพิจารณาเห็นว่าเทศบาลต าบลปอภารมี
32