Page 36 - kpiebook62014
P. 36
หอพักทั้งในและโดยรอบมหาวิทยาลัย ขณะที่ อีกฝ่ายเป็นพ่อค้าที่มีทุนมาก การแข่งขันในการหาเสียงเลือกตั้ง
ท้องถิ่นจึงน าไปสู่การแบ่งฝักฝ่ายไม่เพียงแต่ผู้น าหรือผู้ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่กลุ่มผู้ที่
สนับสนุนผู้สมัครแต่ละฝ่ายด้วย ดังนั้น แม้การเลือกตั้งในท้องถิ่นแห่งนี้ผ่านพ้นไปแล้วจะไม่เกิดกรณีของการ
ฟ้องร้องผลการเลือกตั้งเช่นเดียวกับการเลือกตั้งผู้น าท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนต าบลเหนือเมือง อย่างไรก็
ตาม ผลที่เกิดขึ้นตามมาคือการที่ผู้สนับสนุนผู้ที่แพ้การเลือกตั้งมักจะไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง
เท่าใดนัก ขณะที่ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งก็มักจะด าเนินนโยบายเพื่อตอบสนองต่อผู้ที่สนับสนุนตนมากกว่าฝ่ายที่ไม่
สนับสนุนตน
ผลการหารือกับนายกเทศมนตรีเทศบาลต าบลปอภาร รักษาการนายกเทศมนตรี ได้ข้อมูลพื้นฐาน
เกี่ยวกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชุมชนว่า ความขัดแย้งในเทศบาลต าบลปอภารเกิดขึ้นจากความขัดแย้งอัน
เนื่องมาจากการหาเสียงเลือกตั้งผู้น าท้องถิ่นที่น าไปสู่การแข่งขันในการแสวงหาผู้สนับสนุนอย่างรุนแรง โดยมี
การลงทุนทางการเมืองของผู้สมัครแต่ละฝ่ายในการหาเสียงเป็นจ านวนมากเพื่อแสวงหาผู้สนับสนุน ซึ่งเรื่องนี้
ส่งผลให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งและผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย นอกจากนั้นยังน าไปสู่
ปัญหาการฟ้องร้องผู้ชนะการเลือกตั้งว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง โดยมีหลักฐานประจักษ์พยานยืนยัน ส่งผลให้ผู้
ชนะการเลือกตั้งถูกปลดจากต าแหน่ง แต่นั่นไม่ได้น ามาสู่ความสามัคคีกันของผู้น าและคนในชุมชน แต่กลับ
ส่งผลให้เกิดการตั้งแง่กันระหว่างผู้ลงสมัครและผู้สนับสนุนของทั้งสองฝ่ายอย่างลึกซึ้ง
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่าทั้ง 3 พื้นที่ข้างต้น ตรงตามเงื่อนไขในเรื่องของการเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง
มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายที่ส่งผลเป็นการบั่นทอนความเข้มแข็งในชุมชน อย่างไรก็ตาม แต่ละแห่งมีความแตกต่าง
กันในระดับของความรุนแรงและศักยภาพในการแก้ไขปัญหา กล่าวคือ ขณะที่องค์การบริหารส่วนต าบลเหนือ
เมืองมีความขัดแย้งที่รุนแรงอย่างมาก มีคู่ขัดแย้งชัดเจน และไม่มีทางจะผ่อนผันแก่กันได้ ส่วนความขัดแย้งที่
เกิดขึ้นที่เทศบาลต าบลสีแก้วนั้นคู่ขัดแย้งไม่มีการฟ้องร้อง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นไปในลักษณะที่แฝงเร้น
ไม่ชัดเจนซึ่งอาจส่งผลเมื่อด าเนินกิจกรรมส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งในระยะยาวได้
ด้วยเหตุนี้ จากข้อมูลที่ส ารวจได้ เทศบาลต าบลปอภารจึงมีความเหมาะสมที่สุด เนื่องด้วยมีความชัดเจน
ในคู่กรณี มีประเด็นปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นชัดเจนเป็นที่ประจักษ์เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางในต าบล
ประกอบกับคู่กรณีที่มีการฟ้องร้องกัน ไม่ได้เป็นไปในลักษณะยืดเยื้อ กระทั่งผู้วิจัยไม่สามารถหาช่องทางเข้าไป
เจรจาและเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงตัดสินใจเลือกเทศบาลต าบลปอภารเป็นพื้นที่เป้าหมาย
ในการด าเนินโครงการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งในครั้งนี้
29