Page 44 - kpiebook62014
P. 44
300 กว่าคนหากให้ช่วยขยายผลก็น่าจะช่วยเหลือโครงการได้ เพราะความส าเร็จของการท าโครงการไม่ใช่เฉพาะ
ทางสถาบันฯเท่านั้น ต้องเป็นภาระของทางนี้ด้วย อันที่จริงชุมชนนี้มีจุดแข็งในเรื่องของตัวบุคคล ที่ส่วนใหญ่
เป็นคนที่ได้รับการศึกษา ท าให้คนที่นี่ส่วนใหญ่รับราชการ การคมมนาคมของชุมชนนี้ก็สะดวกเพราะว่ามีผังที่
ดี ท าให้ที่นี่มีโครงการจากหน่วยงานราชการต่างๆเข้ามาบ่อย แต่ผลการด าเนินงานไม่ถึงกับดีมากเพราะเมื่อมีการ
เรียกประชุมก็ยังมาบ้างไม่มาบ้าง อย่างไรก็ตามก็นับเป็นพื้นฐานที่ดี แต่จะท าให้โครงการยากขึ้นหรือว่าง่ายขึ้นก็
ไม่แน่ใจ เพราะก็มีที่ตอนแรกคุยกัน แต่สุดท้าย ก็แอบไปใช้เงินกัน
ตา กล่าวว่า เรื่องการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งผ่านการส่งเสริมการเลือกตั้งไม่ซื้อสิทธิขายเสียงเป็นเรื่องที่
ท้าทายมาก เป็นเรื่องที่แก้ยาก เพราะในการเลือกตั้งประเด็นส าคัญคือใครมีพี่น้องมากกว่ากัน ใครมีเครือข่าย
มากกว่ากัน การส่งเสริมประชาธิปไตย ควรเริ่มต้นจากการให้ความรู้การสร้างวินัย เพื่อให้เคารพสิทธิซึ่งกันและ
กัน เรื่องวินัยเป็นสิ่งส าคัญเพราะจะช่วยให้เกิดการเคารพกติกา ตนคิดว่าเอาแค่เรื่องเข้าคิว ก็เป็นกิจกรรมที่ท้า
ทายมากอยู่แล้วจะท าอย่างไรให้สร้างขึ้นมาได้เพราะเรื่องของวินัยต้องเกิดจากข้างในไม่ใช่กฎหมายข้างนอก
บังคับ เรื่องการเลือกตั้งก็เหมือนกันถ้าไม่มีส านัก “เลือกตั้งจบคนก็ยังไม่จบ” เข้าใจความตั้งใจของคณะผู้วิจัย
และอยากให้การสนับสนุนเพื่อจะได้เกิดความปรองดอง อย่างไรก็ตาม จะท าได้อย่างไร เพราะเมื่อคนลงสมัคร
แล้วก็อยากได้อยากชนะ “ทางไหนได้ก็เอาหมด” ไม่ได้มองว่าคนไหนดี คนไหนมีผลงาน วัฒนธรรมของ
ชาวบ้านชอบแบบสั่งการจากส่วนกลางก็เป็นเรื่องที่ขัดกันอยู่กับประชาธิปไตย แต่วัฒนธรรมของชาวบ้านก็เป็น
แบบนี้ ก็ขอเป็นก าลังใจให้แก่ผู้วิจัย และหากจะให้ช่วยเหลือเรื่องใด ก็พร้อมให้ความร่วมมือ เพราะตนก็อยาก
เห็นว่าจะท าให้เกิดความปรองดองขึ้นได้อย่างไร
กล่าวโดยสรุปได้ว่า ผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น ทั้งอดีตและปัจจุบัน และปราชญ์ชาวบ้านเห็นด้วยกับการ
ด าเนินโครงการนี้ และยอมรับว่าที่ผ่านมาชุมชนแห่งนี้เปลี่ยนไปเมื่อมีการเลือกตั้งเข้ามาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ
ได้รับอิทธิพลจากภายนอก ส่งผลให้ชุมชนที่เคยสมานฉันท์ และพึ่งพาอาศัยกันในอดีต แบ่งฝักแบ่งฝ่ายและ
ไม่ให้ความร่วมมือกับผู้น าที่ชนะการเลือกตั้งเพราะมีความกังขาต่อผลการเลือกตั้งว่าเป็นไปโดยโปร่งใสหรือไม่
จึงไม่ยอมให้ความร่วมมือกับผู้ชนะการเลือกตั้ง ดังนั้น ผู้น าท้องที่ ผู้น าท้องถิ่น ทั้งอดีตและปัจจุบัน และปราชญ์
ชาวบ้าน จึงเห็นด้วยกับการด าเนินโครงการส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง และพร้อมที่จะเข้าร่วม
อย่างไรก็ตาม เรื่องของความส าเร็จนั้นไม่อาจรับประกันได้ ด้วยเงื่อนไขหลายประการ ประการแรกคือ
คนในชุมชนต้องมีความรู้ และ มีส านึก ประการที่สอง คือ ผู้ที่ลงสมัครต้องมีส านึก และ ประการที่สาม คือ
กฎหมายต้องเข้มงวด กระนั้น แม้ไม่อาจรับประกันได้ว่าการด าเนินโครงการวิจัยนี้จะส าเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อย
ผู้น าในชุมชนทั้งที่เป็นทางการไม่เป็นทางการ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ก็รับทราบและยอมรับในหลักการเหตุผลของ
การด าเนินโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้ และพร้อมที่จะเข้าร่วมกิจกรรม เพราะมีความหวังว่าบทเรียนที่ผ่านมา
37
