Page 71 - kpiebook62011
P. 71
(3) เนื่องจากปัญหาหลักของการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์คือค่าทดแทนที่ไม่เป็นธรรม คณะผู้วิจัยเสนอ
ให้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530
โดยกำหนดให้คณะกรรมการฯ ตามมาตรา 9 ต้องประกอบด้วยผู้แทนของประชาชนในพื้นที่
ที่จะเวนคืนด้วย การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการมากขึ้น
แทนที่จะต้องรอถึงขั้นตอนการอุทธรณ์ หรืออย่างน้อยควรพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนด
หลักเกณฑ์ในการรับฟังความคิดเห็นที่ชัดเจนก่อนการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
(4) ค่าทดแทนที่ไม่เป็นธรรมนั้น ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากมิได้คำนวณความเสียหายที่วัดเป็นมูลค่าไม่ได้
จึงควรพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
พ.ศ. 2530 ให้คำนึงถึงความสะดวกในการดำเนินชีวิตของผู้ถูกเวนคืนด้วย ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ที่ถูก
เวนคืนต้องย้ายถิ่นฐาน ควรมีบทบัญญัติเพิ่มเติมให้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายระหว่างหาที่อยู่ใหม่
ที่เหมาะสมด้วย
(5) นอกจากค่าทดแทนที่ไม่เป็นธรรมแล้ว ความล่าช้าก็เป็นปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่ง จึงควรพิจารณา
แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 11 และมาตรา 28 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 โดยกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน เช่น ไม่เกิน 60 วัน หากเกินกว่านั้น
หน่วยงานของรัฐต้องแสดงเหตุผลต่อผู้มีสิทธิ์รับค่าทดแทน
(6) พิจารณาออกพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 21 วรรคสี่ ที่บัญญัติว่า “การคำนวณว่าอสังหาริมทรัพย์
ใดมีราคาสูงขึ้นตามวรรคสอง หรือลดลงตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการที่กำหนด
ในกฤษฎีกา” เพื่อใช้แทนกฎหมายฉบับเดิมที่ถูกยกเลิกไป
7.2 การแก้ไขปัญหาในการนำอสังหาริมทรัพย์ที่เวนคืน
ได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
รายงานฉบับนี้เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
พ.ศ. 2530 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนี้
(1) กำหนดให้หน่วยงานที่จะดำเนินการเวนคืนต้องเสนอแผนงานและโครงการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ให้ชัดเจน และรับฟังความเห็นจากประชาชน เพื่อมิให้มีการเวนคืนที่ดินเกินความจำเป็น
(2) หากหน่วยงานของรัฐได้เข้าใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ที่เวนคืนมาแล้วทั้งหมด ให้ถือว่า
อสังหาริมทรัพย์ที่เวนคืนมาตกเป็นของสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือที่ราชพัสดุแล้วแต่กรณี
และรัฐสามารถนำอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์เพื่อการอื่น หรือประโยชน์สาธารณะอื่น
เพิ่มเติมได้ หากไม่กระทบต่อการใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์เดิม
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530