Page 169 - kpiebook62006
P. 169
163
ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งจึงกลายเป็นแหล่งแสวงหาประโยชน์ของผู้บริหารพรรค โดยไม่มีการด าเนินกิจกรรมทาง
การเมือง และท าให้รัฐสูญเสียงบประมาณไป ดังนั้น จึงควรมีการทบทวนมาตรการและกลไกทางกฎหมายที่มี
อยู่ที่ใช้ในการตรวจสอบการใช้งบประมาณของพรรคการเมืองที่ได้รับอุดหนุนจากรัฐ โดยหากพรรคการเมือง
ไม่ด าเนินการน าเงินงบประมาณไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กฎหมายก าหนด นอกจากจะเรียกเงินอุดหนุนคืนหรือ
ลดการจัดสรรเงินอุดหนุนแล้ว ควรจะมีมาตรการทางกฎหมายเชิงลงโทษในการปรับพรรคการเมืองและ/หรือ
กรรมการบริหารพรรคการเมือง นอกจากนั้น ควรมีมาตรการและกลไกในการส่งเสริมให้ภาคพลเมืองสามารถ
ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของพรรคการเมืองได้ด้วย
(4) ควรมีมาตรการและกลไกทางกฎหมายที่ส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความส าคัญของ
การร่วมคิดและน าเสนอนโยบายในเวทีสาธารณะได้อย่างกว้างขวาง ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
กล่าวคือ ในระดับท้องถิ่น เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีโครงการพัฒนาท้องถิ่นใด ๆ ต้องน าเสนอวิธีการใน
การด าเนินการโครงการนั้นแก่ประชาชนในพื้นที่ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันเป็น
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการนั้นๆ เพื่อเป็นฐานข้อมูลให้ประชาชนได้คิดวิเคราะห์บนพื้นฐานข้อเท็จจริงนั้น และ
น าไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ เสนอแนะแนวทางเกี่ยวกับโครงการหรือกิจกรรมนั้นอย่างเหมาะสม โดยองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องไม่ปิดกั้นประชาชน ส่วนในระดับประเทศนั้น หากรัฐมีโครงการใดที่ส่งผลกระทบใน
วงกว้าง เช่น โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนระบบรางชานเมือง โครงการ
ก่อสร้างเขื่อน ฯลฯ รัฐควรส่งเสริมให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งอาจจะเป็น
ประชาชนทั้งประเทศ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการนั้น ๆ อันจะไปสู่การ
วิพากษ์วิจารณ์อย่างเหมาะสมต่อไป การด าเนินมาตรการเหล่านี้จะเป็นการสร้างการยอมรับจากภาคประชาชน
ให้โครงการนั้น ๆ มีความยั่งยืน เพราะประชาชนจะมีความรู้สึกว่าตนเป็นเจ้าของร่วมกันในโครงการต่างๆ ที่
ผ่านการแสดงออกซึ่งการมีส่วนร่วมของตนเอง ในขณะเดียวกันส าหรับแง่มุมของการรับรู้ถึงความเป็นพลเมือง
นั้น ยังเป็นการสร้างให้ประชาชนตระหนักว่าตนมีหน้าที่ของความเป็นพลเมืองในการตรวจสอบการด าเนิน
โครงการต่าง ๆ ของรัฐ และรัฐเองก็ต้องให้ความเคารพถึงสิทธิแห่งความเป็นพลเมืองของประชาชนด้วย
ส าหรับกลไกที่จะส่งเสริมให้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการต่างๆ ของรัฐนั้น เป็นกลไกที่ถูก
ก าหนดเอาไว้แล้วในกฎหมายหลายฉบับ เช่น การท าการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตาม
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 เป็นต้น แต่สิ่งที่ส าคัญที่สุดคือความจริงจังที่
จะต้องมีการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ให้มากยิ่งขึ้น