Page 11 - kpiebook61002
P. 11

ชุมชนเกิดปัญหาจึงนํากระบวนการยุติธรรมหลักซึ งมีรูปแบบเดียวมาใช้ในการแก้ไขปัญหาของชุมชนที มีความ

               หลากหลายและแตกต่างกัน อาจไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ น ดังนั7น แนวคิดเรื องยุติธรรม

               ชุมชนจึงเกิดขึ7น แนวคิดนี7เป็นกระบวนการที ให้อํานาจแก่ชุมชนในการแก้ไขปัญหา โดยรัฐจะส่งเสริมให้ชุมชนมี
               ความเข้มแข็งเพื อที จะสามารถดูแลและแก้ไขปัญหาของชุมชนได้ และรัฐควรให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมใน

               กระบวนการยุติธรรมตั7งแต่ก่อนดําเนินคดีไปจนกระทั งมีคําพิพากษาลงโทษแล้ว (ดล บุนนาค, >??@, น. >S)

                      แนวคิดยุติธรรมชุมชนยังเกิดจากการเปลี ยนแปลงวิธีคิดในการปฏิบัติต่อผู้กระทําผิด เหยื อ
               อาชญากรรมและชุมชนพร้อมกับการนําระบบยุติธรรมทางเลือกมาใช้ ยุติธรรมชุมชนเป็นส่วนหนึ งของระบบ

               ยุติธรรมทางเลือก และเป็นแนวคิดที ให้ชุมชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ ทําให้ประชาชนมีความปลอดภัย

               และชุมชนมีความเข้มแข็ง ซึ งการใช้ชุมชนเป็นฐานคตินี7เป็นการเปลี ยนการใช้ทฤษฏีความยุติธรรมของ

               เจ้าหน้าที รัฐที ให้ความสําคัญกับผู้กระทําผิด มาเป็นการใช้ทฤษฏีความยุติธรรมชุมชนที ให้ความสําคัญกับเหยื อ
               อาชญากรรม ซึ งความยุติธรรมจะสามารถเกิดขึ7นได้ด้วยการร่วมกันจัดระเบียบชุมชนและเยียวยาสมานฉันท์

               แทนการลงโทษ

                      สําหรับงานหลักที เกี ยวข้องกับยุติธรรมชุมชน มีดังนี7 ประการแรก การจัดระเบียบชุมชน ป้ องกันและ
               ควบคุมอาชญากรรมและการกระทําผิด เป็นการกระทําที จะยับยั7งหรือชะลอเวลาไม่ให้นําไปสู่สถานการณ์การ

               เกิดอาชญากรรมและการกระทําผิด โดยจะมีกิจกรรมที มีลักษณะเป็นการควบคุม จัดระเบียบ และให้ความรู้

               เกี ยวกับอาชญากรรม การกระทําผิดระเบียบชุมชน การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของพลเมือง ให้แก่เยาวชน
               ประการที	สอง การจัดการความขัดแย้งในเชิงสมานฉันท์ เป็นการกระทําที ยุติหรือบรรเทาความรุนแรงของความ

               ขัดแย้งที เกิดขึ7นในชุมชนด้วยการให้ประสานงานดําเนินการเองในชุมชนหรือให้หน่วยงานที เกี ยวข้องกับคนใน

               ชุมชนตามรูปแบบวิธีการที ไม่ใช้ความรุนแรง โดยมีวิธีการรูปแบบต่างๆ เช่น การไกล่เกลี ย การประชุมฟื7นฟู
               สัมพันธภาพ การประชุมกลุ่มครอบครัว และวิธีการเชิงจารีตหรือวิธีการของท้องถิ นรูปแบบต่างๆ เช่น สภาผู้

               เฒ่า เจ้าโคตร แก่บ้าน เกลอ มูชาวาเราะฮฺ เป็นต้น

                      ประการที	สาม การเยียวยาและเสริมพลัง เป็นการเยียวยาความเสียหายหรือความรุนแรงที เกิดจาก

               อาชญากรรมหรือการกระทําผิด และเสริมพลังเหยื ออาชญากรรมด้วยการจัดบริการที จําเป็นเพื อสนับสนุนให้
               กําลังใจ มีการจัดตั7งกลุ่มเพื อเหยื ออาชญากรรม เช่น การจัดตั7งกลุ่มเพื อนหญิง เป็นต้น  ประการที	สี	 การรับ

               ผู้กระทําความผิดกลับคืนสู่ชุมชน เป็นการที ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมปรับปรุงแก้ไขความประพฤติและจิตใจของ

               ผู้กระทําความผิด กลุ่มที ได้รับโอกาสหันเหออกจากกระบวนการยุติธรรมหลักมาใช้กระบวนการยุติธรรม
               ทางเลือกโดยเฉพาะใช้วิธีการคุมประพฤติทั7งที เป็นเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ และผู้ที ได้รับการพักการลงโทษ โดยจะ

               มีกิจกรรมต่างๆ ที ช่วยฟื7นฟูพฤติกรรมและจิตใจของผู้กระทําผิด เช่น การทํางานบริการสังคมแทนการกักขัง

               การทํางานบริการสังคมตามคําสั งศาล การทํางานบริการสังคมเพื อชดเชยความเสียหายแก่เหยื ออาชญากรรม

                                                            2
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16