Page 54 - b29256_Fulltext
P. 54

นอกจากนี้การเรียนแพทย์แนววิทยาศาสตร์ยังความทันสมัยไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมบางประการที่เกิด

            จากการเรียนการสอนแพทย์ที่สำคัญคือ การที่นักเรียนชายและหญิงสามารถเรียนร่วมกันเป็นครั้งแรก จากการเปิด

            โอกาสให้ผู้หญิงเข้าเรียนแพทย์ได้พร้อมกับนักเรียนชายเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2470 ในขณะที่บาง

            ประเทศที่เจริญแล้วเช่นอังกฤษ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เพิ่งจะอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าเรียนแพทย์ได้เพียงปีเดียว ส่วนญี่ปุ่น
            ยังไม่อนุญาต โดยหม่อมเจ้าพูนศรีเกษม เกษมศรี คณบดีคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์

            มหาวิทยาลัยที่รับผิดชอบสอนนักเรียนเตรียมแพทย์ได้ทรงผลักดันและเอาตำแหน่งเป็นเดิมพันในการจัดการศึกษาให้

                                                                     123
            เท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชายในระดับมหาวิทยาลัยของไทยครั้งนี้  และกลายเป็นตันแบบของการเรียนสหศึกษา
            ในระดับต่างๆ ของไทยต่อมา


                   การเรียนร่วมกันระหว่างหญิงและชายที่เกิดขึ้นกับการเรียนแพทย์ในระดับปริญญาที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ให้เน้น

            วิทยาศาสตร์พื้นฐานสำหรับผู้จะไปเป็นแพทย์นี้ นอกจากแสดงให้เห็นว่าสตรีก็สามารถเรียนวิชาที่ยากและเคยคิดว่าทำ
            ได้เฉพาะผู้ชายแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เกิดการยอมรับว่าการเรียนร่วมกันของหนุ่มสาวไม่เกิดเรื่องเสียหายเชิงชู้สาวดังที่

                                                                                                         124
            มีคนหัวเก่าแสดงความกังวลและต่อต้านเมื่อเริ่มต้นอีกด้วย โดยในจำนวนผู้เข้าเรียนในปี 2470 ทั้งหมด 29 คน  มี
            นักศึกษาสตรีจำนวน 7 คน เรียงตามลำดับเลขประจำตัวดังนี้ 1) ม.ร.ว.นันทา ทองแถม ณ อยุธยา เลขที่ 87  2)

            นางสาวชด นิธิประภา เลขที่ 88 3) ม.ร.ว. ส่งศรี เกษมศรี เลขที่ 90 4) นางสาวไทยเชียง อรุณลักษณ์ เลขที่ 95 ส่วนอีก

            สามคนไม่รู้เลขที่คือ 5) นางสาวฉลอง ไกรจิตติ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น เฉิดฉลอง) 6) นางสาวอัมภา ยุกตะนันทน์ (ลาออก
            ตอนปี 1) 7 นางสาวเต็มดวง บุนนาค (ย้ายไปเรียนเรียนจบ ป.ม. อักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์)
                                                                                          125

                   นอกจากสองคนที่ลาออกและย้ายไปเรียนเป็นครูในสองลำดับข้างต้นแล้วปรากฏว่าอีก 5 คนเรียนจบแพทย์ได้

            ทั้งหมด โดยมี 3 คนที่จบได้ตามกำหนดปกติในปี 2475 ได้แก่ ม.ร.ว. ส่งศรี เกษมศรี นางสาวไทยเชียง อรุณลักษณ์ และ

            นางสาวฉลอง ไกรจิตติ ส่วนอีก 2 คนก็เรียนจบตามมาหลังจากนั้นคือ ม.ร.ว.นันทา ทองแถม ณ อยุธยา และนางสาวชด

            นิธิประภา ที่สำคัญเรียนจบด้วยผลการเรียนที่ดีไม่เป็นปัญหาสำหรับสตรีจะศึกษาวิชาแพทย์บางวิชาที่ค่อนข้างยากยังทำ

            คะแนนสูงสุดจนไม่เป็นที่กังขาอีกต่อไป ดังกรณีของ ม.ร.ว. ส่งศรี เกษมศรีที่ทำคะแนนสูงสุดวิชาสรีรวิทยาและนางสาว
            ชด นิธิประภาได้เป็นผู้ช่วยอาจารย์สอนวิชาสรีรวิทยาทำให้เรียนจบช้ากว่าเพื่อนและเมื่อจบแล้วยังได้เป็นอาจารย์สอน





                   123  วรรณา วุฒฑะกุล, “แนวคิดและบทบาททางการศึกษาของหม่อมเจ้าพูนศรีเกษม เกษมศรี,” (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหา
            บัณฑิต ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2533), หน้า 51-60.
                   124  โปรดดู ภาคผนกที่ 9 รายนามนักเรียนคณะอักษรศาสตร์ พ.ศ. 2470 ชั้นเตรียมแพทย์ปีที่ 1, ใน วรรณา วุฒฑะกุล,
            “แนวคิดและบทบาททางการศึกษาของหม่อมเจ้าพูนศรีเกษม เกษมศรี,” (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาประวัติศาสตร์

            จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2533), หน้า 198.
                   125  ทะเบียนประวัติสนักศึกษาแพทย์ พ.ศ. 2470-2525 คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, อ้างถึงใน
            วรรณา วุฒฑะกุล, “แนวคิดและบทบาททางการศึกษาของหม่อมเจ้าพูนศรีเกษม เกษมศรี,” (วิทยานิพนธ์อักษร- ศาสตรมหาบัณฑิต

            ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2533), หน้า 130-134 และดูหน้า 56.
                                                            53
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59