Page 31 - b29256_Fulltext
P. 31
จากพัฒนาการและการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและหน้าที่ของกรมสาธารณสุขตั้งแต่แรกตั้งจนกลายเป็น
กระทรวงไปหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 จะพบว่ามีหน่วยงานเดิมคงที่มาตลอดกับมีการขยายบทบาท
หน้าที่ของหน่วยงานไปครอบคลุมงานใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ เช่น กองยาเสพติด กองวิศวกรรม แต่การเปลี่ยนแปลง
ในเชิงบริหารราชการแผ่นดินในเชิงหลักการปกครองนั้นเกิดขึ้นครั้งสำคัญเมื่อหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.
2476 ที่เปลี่ยนวิธีการควบคุมกำกับดูแลงานด้านสาธารณสุขให้มีความชัดเจนเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วน
ท้องถิ่นที่วางระบบการประสานงานกันจนทำให้งานด้านสาธารณสุขมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ของกรม
สาธารณสุขที่ได้ไปเรียนด้านสาธารณสุขโดยตรงกลับมารับผิดชอบงานโดยตรงดังจะกล่าวต่อไปข้างหน้าด้วย
จำนวนแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข
การค้นหาจำนวนสถิติและจำนวนที่แน่นอนของผู้ให้บริการสุขภาพและผู้ป่วยในระบบสุขภาพไทยค่อนข้างเป็น
เรื่องที่ต้องใช้ความพยายามในการค้นหาและรวบรวมอย่างมากและมักจะไม่มีตัวเลขคงเส้นคงวาเพื่อเทียบได้ชัดเจนนัก
แต่เพื่อให้เห็นภาพของการขยายตัวของการแพทย์และการสาธารณสุขไทยชัดเจนขึ้น จึงขอรวบรวมเอาตัวเลขเพื่อให้
เห็นภาพด้านการแพทย์และการสาธารณสุขที่อยู่ในมือคนเหล่านี้มาให้เห็นภาพคร่าวๆ เท่าที่มีข้อมูลดังต่อไปนี้
ข้อมูลจำนวนแพทย์เก่าสุดปรากฏในรายงานของพระยามหาอำมาตย์ในปี พ.ศ. 2457 ได้รายงานจำนวนแพทย์
ในกระทรวงมหาดไทยว่ามี 1) แพทย์ฝรั่ง 5 คน เป็นแพทย์ที่ปรึกษามณฑล 2) แพทย์ประจำมณฑล 7 คน 3) แพทย์รับ
ราชการในกรุงเทพฯ และประจำตามหัวเมืองเป็นแพทย์ประจำเมือง 82 คน 4) แพทย์ปลูกฝีตามหัวเมือง 24 คน รวม
64
แพทย์ไทย 113 คน 5) แพทย์ประจำตำบลใน 17 มณฑล 3,935 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 4,116 คน ในจำนวนนี้คงเป็น
แพทย์แผนปัจจุบันซึ่งส่วนใหญ่คือแพทย์ประกาศนียบัตรจากโรงเรียนแพทย์ที่ศิริราชมีเพียงแค่ 113 คนเท่านั้น ที่เหลือ
เป็นแพทย์ฝรั่ง 5 คน ส่วนที่เหลือทั้งหมดคงจะเป็นแพทย์แผนไทยมีจำนวน 3,998 คน ได้แก่ จำนวนแพทย์ปลูกฝีที่แยก
ในข้อ 4) เป็นแพทย์แผนไทย 113 คนนั้นชัดเจนว่าคือแพทย์แผนไทยที่มาฝึกหัดจนทำการปลูกฝีได้ กับแพทย์ประจำ
ตำบลที่ทางการตั้งแพทย์แผนไทยในท้องที่มาทำการให้กับรัฐบาลในด้านการแพทย์แผนปัจจุบันซึ่งเน้นรายงานโรค
ระบาดและจำหน่ายจ่ายแจกยาแผนปัจจุบันให้กับชาวบ้านพร้อมๆ กับยาแผนไทยของหลวงและของตนเอง
เมื่อสิ้นสมัยรัชกาลที่ 7 นั้นมีการรวมเอาสถิติผู้มาขึ้นทะเบียนประกอบโรคศิลปะตามที่กฎหมายกำหนดมา
จนถึงปี พ.ศ. 2479 ปรากฏว่ามีบุคลากรทางการแพทย์ในแผนปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากและเป็นกำลังสำคัญ
ในการขยายความนิยมในการแพทย์แผนปัจจุบันให้เข้าสู่ชีวิตพลเมืองไทย ที่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 การ
ได้รับบริการด้านแพทย์และสาธารณสุขถูกมองว่าเป็นสิทธิอันพึงได้รับในฐานะพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย มุมมอง
ต่อการจัดการด้านการแพทย์แนวสร้างกุศลหรือจัดสงเคราะห์เป็นทานจึงค่อยเปลี่ยนมาเป็นบริการของรัฐเพื่อสุขภาพที่
ดีของประชาชนชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้นการมีผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสุขภาพที่ต้องขึ้นทะเบียนประกอบเวชปฏิบัติ
เวชกรรมของแพทย์เหล่านั้นก็ยิ่งสำคัญเพื่อประกันความปลอดภัยของประชาชนอีกด้วย ดังปรากฏว่าในรอบ 17 ปีที่ให้
64 สจช., มร 6 ม/10/1-ม 12.1/2 เรื่องรวมกองพยาบาลต่างๆ ขึ้นเป็นกรมหนึ่งในกระทรวงมหาดไทย เรียกว่ากรมพยาบาล.
อ้างถึงใน ถนอม บรรณประเสริฐ และคณะ, บรรณาธิการ, ประวัติศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุขไทย (กรุงเทพฯ: แพทยสภา, 2563),
หน้า 112.
30