Page 73 - 23464_Full text
P. 73

72



                          ส าหรับจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยนั้นมีจุดยืนงดออกเสียงตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญเปลี่ยนกลับมา
                   เป็นแบบัตร 2 ใบ ส่วนในช่วงพิจารณากฎหมายลูกมีจุดยืนชัดเจนโดยตลอดว่าไม่สนับสนุนสูตรหาร

                   100 ซึงจุดยืนดังกล่าวนี้มีความสมเหตุสมผลในฐานะพรรคขนาดกลาง และถ้าย้อนกลับไปดูผลการ
                   เลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยในอดีต ก็จะเข้าใจได้ว่าเหตุใดพรรคภูมิใจไทยจึงวางจุดยืนเช่นนั้นในเกม
                   การต่อสู้ปรับเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้ง หากดูตารางที่ 6 จะเห็นชัดเจนว่าภูมิใจไทยเป็นพรรคขนาด
                   กลาง และเป็นพรรคที่ถนัดในการแข่งขันในระบบเขตมากกว่าระบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากท างาน

                   การเมืองแบบพรรคอุปถัมภ์ท้องถิ่นที่เน้นการสร้างเครือข่ายการเมืองที่เข้มแข็งดูแลประชาชนในพื้นที่
                   ในบางภูมิภาคเป็นหลัก แต่แบรนด์พรรคหรืออัตลักษณ์พรรคไม่ได้โดดเด่น ท าให้ได้คะแนนบัญชี
                   รายชื่อน้อย เช่น การเลือกตั้งปี 2554 ซึ่งพรรคลงแข่งขันเป็นครั้งแรก ได้คะแนนในบัตรบัญชีรายชื่อ
                   เพียงร้อยละ 3.94 ท าให้ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อเพียง 5 คน ฉะนั้นระบบเลือกตั้งแบบรัฐธรรมนูญ 2540

                   ที่เอื้อประโยชน์ให้พรรคขนาดใหญ่จึงไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้พรรคขนาดกลางอย่างภูมิใจไทยที่ไม่ได้มี
                   ฐานเสียงในระดับประเทศมากนัก ในขณะที่ระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่เน้นความเป็น
                   สัดส่วนมากขึ้นท าให้พรรคเติบโตจาก 34 ที่นั่งเป็น 51 ที่นั่งในการเลือกตั้ง 2562 เนื่องจากในหลาย
                   เขตเลือกตั้งในภาคอีสานและภาคกลางที่พรรคภูมิใจไทยแพ้ในระบบเขตแต่ได้คะแนนมามากเป็น

                   อันดับที่สอง คะแนนเหล่านี้ถูกจัดสรรมาเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคมากกว่าระบบเลือกตั้งแบบ
                   คู่ขนาน ฉะนั้นพรรคขนาดกลางอย่างภูมิใจไทยจึงมีเหตุผลที่สนับสนุนสูตรหาร 500 ที่เน้นความเป็น
                                                                       74
                   สัดส่วนมากกว่าสูตรหาร 100 ที่ท าให้พรรคขนาดใหญ่ได้เปรียบ
                          พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองที่วางยุทธศาสตร์เป็นพรรคท้องถิ่นขนาดกลาง ที่ไม่ใหญ่
                   เกินไปและไม่เล็กเกินไป คือ อยู่ระหว่าง 35-70 ที่นั่ง ความเป็นพรรคขนาดไม่ใหญ่เกินไปท าให้สร้าง

                   ความเป็นเอกภาพภายในพรรคและควบคุมวินัยของสมาชิกพรรคได้ง่าย ในขณะเดียวกันการเป็นพรรค
                   ที่ไม่เล็กเกินไปพรรคสามารถมีอ านาจต่อรองได้ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งภายใต้ระบบการเมืองที่จ าต้อง
                   จัดตั้งรัฐบาลผสม พรรคขนาดกลางกลายเป็นพรรคที่มีความส าคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าพรรคขนาดใหญ่

                   พรรคใดก็ตามที่ชนะมาเป็นอันดับหนึ่งแต่ไม่มีเสียงเกินครึ่งก็จ าเป็นต้องเชิญชวนพรรคภูมิใจไทยเข้า
                   ร่วมรัฐบาล ซึ่งท าให้พรรคภูมิจไทยสามารถมีอ านาจต่อรองในการก าหนดต าแหน่งรัฐมนตรีใน
                   กระทรวงส าคัญได้ ระบบเลือกตั้งที่ไม่เอื้อให้พรรคใหญ่จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้จึงเป็นระบบเลือกตั้ง
                   ที่พรรคภูมิใจไทยต้องการ



                     ตารางที่ 6 : ผลการเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยระหว่างปี 2554-2562


                      การเลือกตั้ง  คะแนนบัญชีรายชื่อ     จ านวน           จ านวน         จ านวน
                                                       ส.ส. บัญชีรายชื่อ   ส.ส. เขต     ส.ส. ทั้งหมด

                        2554       1,281,652 (3.94%)         5               29             34

                        2562       ไม่มีบัตรบัญชีรายชื่อ    12               39             51

                      ที่มา: คณะกรรมการการเลือกตั้ง



                   74  “หักเหลี่ยมบัตร 2 ใบ ภท.-ปชป. ล้ม พปชร.,” เนชั่นออนไลน์, 1 มี.ค. 2565, https://www.nationtv.tv/
                   news/378865326; “ภูมิใจไทยเอาด้วยเทโหวตหนุนสูตรปาร์ตี้ลิสต์ หาร 500,” สยามรัฐ, 5 ก.ค. 2565.
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78