Page 91 - 22816_Fulltext
P. 91
68
สงขลา นครศรีธรรมราช เป็นต้น สำหรับระดับความรุนแรงยังไม่มาก อาจเพียงเกิดความกังวลของ
ผู้ปกครองที่ลูกของตนเองเพื่อนไม่คุยด้วย วิธีการแก้ไขปัญหา คือ การติดตามและพูดคุยผ่านกลไก 3
ฝ่ายของโรงเรียน คือ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายดูแลช่วยเหลือนักเรียน และครูประจำชั้น ตลอดจนครูหอพัก
ในกรณีที่เป็นประเด็นสำหรับนักเรียนหอพัก
4) แนวทางในการสร้างสันติวัฒนธรรมควรเป็นอย่างไร ควรมีแนวทางใดบ้าง
ควรมีการจัดตั้งคณะทำงานอย่างเป็นระบบมากกว่ากลไกที่มีอยู่ และ สนับสนุน
การพัฒนาทักษะการจัดการความขัดแย้งอย่างสันติอยู่อย่างสม่ำเสมอ และเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง
ของเยาวชน นักเรียน Gen ใหม่ ๆ ในพฤติกรรมอย่างรู้เท่าทัน
5) ปัจจัยใด หรืออะไรที่จะทำให้เกิดสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษา
คณะทำงานขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ องค์กรร่วมพัฒนา (ความรู้และทักษะ) กลไก
ที่มีประสิทธิภาพ การสร้างความตระหนักและให้ความรู้ต่อแกนนำการขับเคลื่อนอยู่อย่างสม่ำเสมอ
และมีการขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวผ่านทางกิจกรรม/โครงการของทางโรงเรียนอยู่ตลอด
ในวันที่สอง วิทยาการบรรยายให้ความรู้ในเรื่อง “การสื่อสารเพื่อความเข้าใจ Thinking
Environment” “เข้าใจและร่วมมือต้าน Hate Speech ในสถานศึกษา” “เครื่องมือพูดคุย: ฝึกเจรจา
การไกล่เกลี่ยโดยคนกลาง และการสานเสวนาเพื่อความเข้าใจ” โดยเป็นการบรรยายแบบมีในวันที่สอง
วิทยาการบรรยายให้ความรู้ เรื่อง “การสื่อสารเพื่อความเข้าใจ Thinking Environment” โดย ดร.ชลัท
ประเทืองรัตนา จากนั้นเป็นการบรรยายเรื่อง “เข้าใจและร่วมมือต้าน Hate Speech
ในสถานศึกษา” โดย ดร.พิมพ์รภัช ดุษฎีอิสริยกุล ผู้จัดการโครงการมูลนิธิฟรีดริช เนามัน ต่อมาเป็น
กิจกรรม “เกมการตีตรา” โดยเป็นการบรรยายแบบมีส่วนร่วมและใช้กิจกรรมต่างๆ ประกอบการเรียนรู้
สุดท้ายเป็นการขับเคลื่อนสันติวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา: จัดทำแผนปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม
โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แนวคิดโครงการที่น่าสนใจ อาทิ โครงการปรับเปลี่ยนทัศนคติไม่ให้เกิด
การใช้คำพูด Bully ในเรื่องความงาม โครงการไม่ให้เกิดการ Bully จากการดูพี่เป็นตัวอย่างที่ดี และ
โครงการสานสัมพันธ์สันติวัฒนธรรม ผ่านการอบรมให้ความรู้กับน้องในโรงเรียน เพื่อสร้างสังคม
แห่งการยอมรับและเข้าใจ เป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ดีงาม
1) โครงการกลุ่ม 1 ค่ายสานต่อวัฒนธรรม (วิดีโอ เรื่อง: Beauty standard มาตรฐานความงาม)
ความสำคัญและที่มา: ปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนและสังคมจากการที่มองคนอื่นแค่
ภายนอกเพื่อให้มีความเท่าเทียมกัน
วัตถุประสงค์:
1. เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและมุมมองของคนในโรงเรียนและสังคม
2. ปลูกฝังค่านิยมและแนวคิดเชิงบวก