Page 27 - 22665_Fulltext
P. 27
10
8) ท่านคิดว่าในมิติด้านการจัดการความขัดแย้ง ท่านคิดว่ากลไกใดที่ท าให้ชุมชนของท่าน
สามารถจัดการปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชุมชนได้ และท าให้ชุมชนมีสันติสุข
นอกจากการถามค าถามดังกล่าวแล้วผู้วิจัยได้ตั้งค าถามเจาะจงเพื่อตอบโจทย์การจัดการ
ความขัดแย้งและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ดังนี้
1) ในชุมชนมีความขัดแย้งเรื่องอะไรกันบ้าง อย่างไร สาเหตุความขัดแย้งเกิดจากอะไร
เรื่องที่เกิดขึ้นจบลงแล้วหรือไม่ อย่างไร?
2) เมื่อเกิดความขัดแย้งในชุมชน ท่านอยากให้ใครเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาหรือจัดการให้
(ชื่อคน ต าแหน่ง)
3) ในชุมชนเมื่อเกิดความขัดแย้งแล้ว มีการแก้ไขอย่างไร
- ถ้าพูดคุยกันเองไม่ได้ไปหาใคร พูดคุยกันที่ไหน (ผู้น าที่เป็นทางการ กับผู้น าตาม
ธรรมชาติ)
- ลักษณะการพูดคุย/ขั้นตอนการพูดคุยเป็นอย่างไร (ตัดสินปัญหาให้ หรือให้คู่กรณี
เสนอแนะ ยึดกฎหมาย หรือยึดจารีตเป็นหลัก) ขั้นตอนการพูดคุย (ก่อน ระหว่าง หลังตกลงกันได้)
- มีการบันทึกลงนามข้อตกลงกันไหม? (เซ็นในเอกสาร/ ปากเปล่า/ สัญญาใจ) ใครเป็น
สักขีพยาน
- มีการท าตามข้อตกลงหรือไม่หรือไม่ท าตามข้อตกลง ถ้าไม่ท าตามจะเกิดอะไรขึ้น/ มี
การลงโทษอย่างไรหรือท าอะไรต่อหากไม่ท าตามข้อตกลง)
- ถ้าตกลงกันไม่ได้ จะท ายังไง? (มีช่องทางอื่นไหม/ ชุมชนจะท าอย่างไร)
- การติดตามประเมินผลมีหรือไม่ อย่างไร
4) ความขัดแย้งเรื่องใดที่ชุมชนจัดการได้เป็นอย่างดี
5) คนกลางได้รับการอบรมหรือพัฒนาศักยภาพบ้างหรือไม่?
6) ทรัพยากร เช่น เงิน คน วัสดุอุปกรณ์ สถานที่ ที่ใช้ในการจัดการความขัดแย้ง
7) เหตุการณ์ความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นในชุมชนมีบ้างหรือไม่ อย่างไร
8) ปัจจัยแห่งความส าเร็จของการจัดการความขัดแย้งคืออะไร
9) ข้อเสนอแนะในการจัดการความขัดแย้งและป้องกันความรุนแรงในชุมชน
1.5 การวิเคราะห์ข้อมูล
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพที่เน้นการลงพื้นที่สนาม และใช้แนวคิดทฤษฎี ของ
การจัดการความขัดแย้งและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท สันติภาพเชิงลบ และสันติภาพเชิงบวกมาเป็น
กรอบในการอธิบายข้อมูลจากการถอดบทเรียนในชุมชน โดยใช้วิธีการตรวจสอบแบบสามเส้า