Page 50 - kpi22408
P. 50
ความรู้เบื้องต้นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 49
3.1.4 พระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
สถานะของพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่เคารพสักการะ
ผู้ใดจะละเมิดมิได้นั้น ก็ได้รับการบัญญัติรับรองในรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เช่นกัน โดยมีแนวคิดมาจาก
รัฐธรรมนูญประเทศญี่ปุ่นสมัยเมจิ โดยการบัญญัติสถานะดังกล่าวนี้
หมายความว่ารัฐบาลและประชาชนมีหน้าที่จะต้องเคารพสักการะ
ต่อพระมหากษัตริย์ ส่วนคำาว่า “ผู้ใดจะละเมิดมิได้” นั้น หมายความว่า
ผู้ใดจะฟ้องร้องให้พระมหากษัตริย์ต้องรับผิดโดยตรงไม่ได้
ทั้งนี้ การบัญญัติกำาหนดพระราชสถานะดังกล่าว ส่งผลให้
พระมหากษัตริย์จะต้องดำารงตนอยู่เหนือการเมือง ดังนั้น จึงไม่อาจทรง
แสดงออกว่าฝักใฝ่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งได้ แม้ว่ารัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทยจะไม่เคยบัญญัติถึงการดำารงตนอยู่เหนือการเมือง
ของพระมหากษัตริย์โดยตรง แต่ก็ได้มีคำาวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่รับรอง
พระราชสถานะดังกล่าว โดยวินิจฉัยว่า
“หลักการพื้นฐานดังกล่าว ถือเป็นเจตนารมณ์ร่วมของ
การสถาปนาระบอบการปกครองของไทยไว้ในรัฐธรรมนูญแต่เริ่มแรก
และเป็นฉันทามติที่ฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรให้การยอมรับปฏิบัติสืบต่อมาว่า
พระมหากษัตริย์ .... ควรด�ารงฐานะอยู่เหนือการเมือง โดยเฉพาะในแง่
การไม่เข้าไปมีบทบาทเป็นฝักฝ่ายต่อสู้แข่งขันรณรงค์ทางการเมือง
อันอาจจะน�ามาซึ่งการโจมตี ติเตียน และกระทบต่อความสงบเรียบร้อย
สมัครสมานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์
กับราษฎร....”
7/2/2565 BE 16:08
inside_�������������.indd 49
inside_�������������.indd 49 7/2/2565 BE 16:08