Page 35 - 22385_Fulltext
P. 35
การศึกษาการบังคับใช้ การศึกษาการบังคับใช้
พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
องค์กรเอกชน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการด้วยวิธีใด ๆ ที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานหรือบุคคลต้องดำเนินการตาม โดยระเบียบข้อ 42
เพื่อระงับ และป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้ได้รับมอบหมายคอยติดตามและสอดส่อง
ตามมาตรานี้มีโทษตามมาตรา 34 ดูแลให้มีการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยอย่างเคร่งครัด ผู้ใดจงใจฝ่าฝืนอาจถูก
ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
3.3 เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 22 กำหนด
ให้กรรมการ วลพ. อนุกรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งคณะกรรมการ 4. ความจำเป็นและความสอดคล้องของกฎหมายกับสภาพการณ์
วลพ. มอบหมาย มีอำนาจเข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ใด ๆ เพื่อรวบรวม พัฒนาการของเทคโนโลยี และวิถีชีวิตของประชาชน
พยานหลักฐานโดยมีหมายค้นได้ (มาตรา 22 (1)) รวมทั้งมีหนังสือสอบถาม
หรือเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือต้องส่งสิ่งของหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่นนี้ เพื่อพิจารณาว่าด้วยวัตถุประสงค์ของกฎหมายก็ดี มาตรการสำคัญ
ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถานหรือสถานที่ใด ๆ หรือผู้ที่ ที่ถูกสร้างขึ้นตามกฎหมายฉบับนี้ก็ดียังคงมีความจำเป็น รวมทั้ง
คณะกรรมการ วลพ. มีหนังสือสอบถามหรือเรียกให้ส่งมอบสิ่งของหรือ ยังสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน พัฒนาการของเทคโนโลยี และ
เอกสารใด ๆ จึงจำต้องปฏิบัติตาม (มาตรา 22 วรรคสอง) หากฝ่าฝืนมีโทษ วิถีชีวิตของประชาชนอยู่อีกหรือไม่ สมควรต้องพิจารณาและวิเคราะห์จากทั้ง
ตามมาตรา 35 ข้อเท็จจริงและสถานการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับความเสมอภาคเท่าเทียม
ระหว่างเพศที่เกิดขึ้นในสังคมไทยทั้งก่อนและภายหลังการบังคับใช้ พ.ร.บ.
3.4 ตามระเบียบการยื่นคำร้องเรียนต่อคณะกรรมการ วลพ. ความเท่าเทียมฯ รวมทั้งข้อคิดเห็นของบุคคลในแวดวงวิชาชีพต่าง ๆ ที่ทำงาน
เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องและเข้าสู่การพิจารณาแล้ว ข้อ 22- 23 กำหนดว่า เกี่ยวข้องสัมพันธ์อยู่กับกฎหมายฉบับนี้ต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของ
คณะอนุกรรมการ วลพ. ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่วินิจฉัยคำร้องสามารถกำหนดให้ การบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายนับตั้งแต่มีการประกาศใช้ ประกอบกัน
“ผู้ถูกร้อง” ทำให้คำให้การ คำชี้แจง ส่งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ ดังนี้
การพิจารณาได้ และหากคำให้การ หรือพยานหลักฐานที่ส่งมาไม่ชัดเจน
ก็สามารถสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติม โดยหากไม่ดำเนินการ ระเบียบตามข้อ 24 4.1 ข้อเท็จจริงและสถานการณ์ด้านสิทธิสตรีก่อนและ
จะถือว่าผู้ถูกร้องนั้นยอมรับข้อเท็จจริงตามคำร้อง ซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อ หลังบังคับใช้ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ
ตัวผู้ถูกร้องเอง นอกจากนี้ในระเบียบข้อ 25 คณะอนุกรรมการยังมีอำนาจ แม้ภายหลังจากที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วย
แสวงหาพยานหลักฐานจากทั้งคู่กรณีและจากบุคคลอื่นใดที่อาจถูกเรียกมา การขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the
เป็นพยานได้ด้วย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้อาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของ Elimination of All Forms of Discrimination Against Women -
คู่กรณีและบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งเมื่อคณะอนุกรรมการมีคำวินิจฉัยและ CEDAW) รวมทั้งพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาดังกล่าวในปี พ.ศ. 2528 จะได้
มีคำสั่งหรือมาตรการใด ๆ เพื่อระงับการเลือกปฏิบัติตามคำร้องแล้ว ผู้ถูกร้อง เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งในระดับนโยบาย กฎหมาย และ
20 สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพระปกเกล้า 21