Page 163 - 22385_Fulltext
P. 163

การศึกษาการบังคับใช้                                                                การศึกษาการบังคับใช้
                     พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย      พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย


                   6.4  ในแง่ของสถานะของหน่วยงานผู้รับผิดชอบบังคับใช้                                  เป็นภารกิจและหน้าที่หลักของรัฐและจำเป็นสูงสุดเพื่อการพัฒนาประเทศ

                 กฎหมายฉบับนี้                                                                         เมื่อเป็นกระทรวงที่รัฐไม่เห็นความสำคัญ ก็ย่อมส่งผลทั้งต่องบประมาณ และ
                                                                                                       อัตรากำลังเพื่อสร้างคนที่จะมาทำงานด้านนี้ให้น้อยตามไปด้วยนั่นเอง ดังนั้น
                         ผู้ให้สัมภาษณ์หลายคนเสนอว่ารัฐควรพิจารณาทบทวนให้มี

                 สถานภาพเป็นหน่วยงานที่มีความอิสระ หรือไม่ต้องทำงานอยู่ภายใต้                          การฝากงานสำคัญระดับนี้ไว้กับกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ในบริบทของประเทศไทย
                 กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้กับ                     จึงอาจเป็นปัญหาและออกจะผิดฝาผิดตัว ตัวอย่างหน่วยงานอิสระด้าน
                 ทุกหน่วยงาน ให้อำนาจแบบเดียวกับกลไกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)                     ความเสมอภาคเท่าเทียมทางเพศที่ไม่ได้ขึ้นตรงหรือทำงานภายใต้กระทรวงใด
                 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) หรือ                             กระทรวงหนึ่ง แต่ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการบังคับใช้

                 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่สามารถตรวจสอบหน่วยงาน                        กฎหมายที่ว่าด้วยความเท่าเทียมระหว่างเพศ ผลักดันการปฏิบัติตาม
                 ต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ดำเนินการให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์                 พันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง สามารถให้ทุนสนับสนุนกิจกรรมและ

                 ของกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม การจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ไปถึง                    ส่งเสริมองค์กรเอกชนที่ทำงานด้านนี้ รวมทั้งทำงานร่วมกับทุกกระทรวงได้
                 จุดนั้นได้ รัฐจำเป็นต้องเห็นให้ได้เสียก่อนว่าการสร้างความเสมอภาคเท่าเทียม             ที่น่าสนใจศึกษาโดยละเอียดต่อไป ก็คือ “สำนักงานความเท่าเทียมของ
                                                                                                                                                                   83
                 ระหว่างเพศ และการห้ามการเลือกปฏิบัติในสังคมไทยเป็นเรื่องสำคัญต่อ                      รัฐบาล” (The Government Equalities Office) แห่งประเทศอังกฤษ
                 การพัฒนาประเทศในระบอบประชาธิปไตย เพราะเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับ                           ซึ่งเป็นสำนักงานที่รับผิดชอบบังคับใช้กฎหมายด้านความเท่าเทียมต่าง ๆ

                 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ไม่ใช่แค่ปัญหาเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะเพศ ที่หาก                    ทั้งยังเป็นผู้นำหลักในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับผู้หญิง วิถีทางเพศ และ
                 ถูกละเมิดเมื่อไหร่ก็ค่อยมาเรียกร้องให้รัฐดูแลคุ้มครองให้ ตราบใดที่รัฐ                 ความเท่าเทียมระหว่างเพศ กล่าวได้ว่าหน่วยงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง
                 ยังไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญที่ควรมีหน่วยงานเฉพาะรับผิดชอบแบบเต็มที่ทำงาน                ต่อพัฒนาการด้านนี้ของประเทศอังกฤษ ทั้งยังมีอิทธิพลต่อการปรับเปลี่ยน

                 เต็มเวลา การบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ก็จะยังคงเป็นเพียง “งานฝาก” อยู่ใน                  กระบวนทัศน์ในเรื่องความเสมอภาพทางเพศในสังคมอังกฤษจนเป็นที่ยอมรับ
                 กระทรวง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่อาจมีภารกิจอื่น ๆ ที่ต้องทำอยู่                 และเป็นแบบอย่างของนานาประเทศ
                 ก่อนแล้ว ต่อประเด็นนี้ ผู้ศึกษาขอตั้งข้อสังเกตว่า อันที่จริงการให้กระทรวง                     อนึ่ง นักวิชาการผู้ให้สัมภาษณ์บางส่วนเสนอว่า ประธาน

                 พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นผู้รับผิดชอบบังคับใช้                      คณะกรรมการ สทพ. ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการขับเคลื่อนประเด็น
                 กฎหมายฉบับนี้อาจเป็นเรื่องถูกต้องและเหมาะสมกับพันธกิจของกระทรวงแล้ว                   ความเสมอภาคระหว่างเพศ แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และสร้างความเปลี่ยนแปลง
                 แต่ปัญหาของประเทศไทยก็คือ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไม่ใช่และไม่เคยเป็น                      ในระดับนโยบายรัฐ ไม่ควรผูกติดไว้กับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือตำแหน่งใด

                 กระทรวงที่รัฐไทยให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ เฉกเช่นประเทศพัฒนาแล้ว                            83
                                                                                                                 ดูการจัดองค์กร อำนาจหน้าที่ ผลงาน ฯลฯ ได้ที่เว็บไซต์ Government
                 หรือประเทศประชาธิปไตยอื่น ๆ ที่มองว่าการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์                             Equalities Office, สืบค้นวันที่ 10 กันยายน 2564, เข้าถึงได้ที่ https://www.gov.uk/
                 ให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ มีสิทธิเสรีภาพ มีความเสมอภาคเท่าเทียม                       government/organisations/government-equalities-office



            148    สถาบันพระปกเกล้า                                                                                                                  สถาบันพระปกเกล้า
   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168