Page 126 - 22385_Fulltext
P. 126

การศึกษาการบังคับใช้                     การศึกษาการบังคับใช้
 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย   พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



 ด้วยเหตุแห่งเพศยังคงดำรงอยู่และไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ อย่างมี    และประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิดังกล่าวได้ง่ายกว่าการร้องเรียนกับ
 นัยสำคัญ ในขณะที่ระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกลไกด้านกองทุน  หน่วยงานอื่น นอกจากนี้ กรมกิจการสตรีฯ โดยกองงานที่เกี่ยวข้องยังช่วย
 ส่งเสริมความเท่าเทียมฯ ยังคงถูกตั้งคำถาม ทั้งในแง่ของการช่วยเหลือ  อบรมแนะนำวิธีการร้องเรียนต่อให้กับคนทำงานภาคประชาสังคมเพื่อให้
 เยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกเลือกปฏิบัติ และในแง่ของการใช้ไป  สามารถนำความรู้ความเข้าใจที่ได้ไปช่วยเหลือหรือแนะนำต่อกันเอง หรือ

 เพื่อกิจกรรมหรือดำเนินการต่าง ๆ เพื่อสร้างสังคมแห่งความเสมอภาคเท่าเทียม   ต่อประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ได้
 ปัญหาการขาดการทำงานเชิงรุกของกรมกิจการสตรีฯ จนส่งผลต่อระดับของ    อย่างไรก็ตาม แม้กระบวนการร้องเรียนจะสะดวกรวดเร็ว แต่ผู้ให้

 การรับรู้ถึงการมีอยู่ของกฎหมาย ความตระหนักรู้ในสิทธิความเท่าเทียมของ  สัมภาษณ์ทั้งที่เป็นคนทำงานภาคประชาสังคม และผู้เสียหายที่เคยร้องเรียน
 บุคคล ฯลฯ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดของสถานการณ์การบังคับใช้ อุปสรรค  เห็นว่าในขั้นตอนของการพิจารณา หรือการต้องมาให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ วลพ.
 และปัญหาการบังคับใช้ รวมทั้งบทวิเคราะห์ความจำเป็นของกฎหมาย   ยังมีความลำบาก และเสียค่าใช้จ่ายและเวลาค่อนข้างมาก เนื่องจากโดยหลัก
 สามารถดูได้จากเนื้อหาบทที่ 3 “การวิเคราะห์ความจำเป็นและผลกระทบ  ต้องเดินทางเข้ามาที่ส่วนกลางในกรุงเทพ ในขณะที่คณะกรรมการ วลพ.

 ของกฎหมาย” ในรายงานฉบับนี้
                   มีงบประมาณช่วยเหลือไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ การรับรู้ถึงการมีอยู่ของ
   อย่างไรก็ดี เพื่อให้รายงานมีความครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผู้ศึกษา  กฎหมายและช่องทางการใช้สิทธิยังไม่กว้างขวาง การรับรู้โดยมากมาจาก
 จึงขอนำเสียงสะท้อนในแง่ดีต่อการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ในบางเรื่อง   องค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานในพื้นที่ ไม่ได้มาจากภาครัฐ ดังนั้น

 มานำเสนอเพิ่มเติมจากเนื้อหาส่วนอื่น ๆ ด้วย ดังนี้    หากพื้นที่ไหนไม่มีองค์กรเอกชนเหล่านี้ ประชาชนก็แทบไม่รู้เรื่องเลย
                   ผู้เสียหายที่เคยยื่นคำร้องเกือบทุกคนที่ผู้ศึกษาทำการสัมภาษณ์ให้ข้อมูลว่า
   1) ผู้ให้สัมภาษณ์ในงานศึกษานี้เกือบทั้งหมดยอมรับ และเห็นพ้อง
 ต้องกันว่าช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศต่อ  ได้รับคำแนะนำ รวมทั้งช่วยเขียนและยื่นคำร้องจากหน่วยงานภาคประชาสังคม

 คณะกรรมการ วลพ. ไม่ยุ่งยาก สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงง่าย หน่วยงาน    หรือคนที่เคยยื่นคำร้องมาก่อน  ผู้เสียหายรายหนึ่งแจ้งด้วยว่า เคยพยายาม
 และพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างกรมกิจการสตรีฯ กองส่งเสริม    ติดต่อไปที่พมจ.จังหวัดเพื่อดำเนินการร้องเรียน แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่า

 ความเสมอภาคระหว่างเพศ อำนวยความสะดวกให้กับผู้ต้องการร้องเรียน  ไม่รู้ว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปเช่นกัน
 ค่อนข้างดี และผู้ร้องสามารถเข้าถึงได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น      2) มาตรการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองผู้ร้องระหว่างพิจารณาตาม
 การมาร้องด้วยตนเองที่หน่วยงาน ร้องด้วยวาจาทางโทรศัพท์ ทางจดหมาย   มาตรา 19 พ.ร.บ. ความเท่าเทียมฯ สามารถบังคับใช้ได้จริง และค่อนข้าง
 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งทางแอปพลิเคชัน Line ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่    มีประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ร้องไม่ให้ถูกละเมิดซ้ำซ้อน โดยเพื่อให้เกิด

 คอยช่วยเหลือกรอกแบบฟอร์ม กระทั่งช่วยเรียบเรียงเหตุการณ์และเรื่องราว  ความเป็นธรรมทั้งกับฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องที่ผ่านมา ในการพิจารณาว่าจะมี
 เพื่อเขียนคำร้องให้ด้วย ทำให้ความยุ่งยากของกระบวนการต่าง ๆ ลดลง     คำสั่งใช้มาตรการชั่วคราวดังกล่าวหรือไม่ คณะกรรมการ วลพ. จะยึดตาม




   0  สถาบันพระปกเกล้า                                            สถาบันพระปกเกล้า
   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131