Page 124 - 22385_Fulltext
P. 124

การศึกษาการบังคับใช้                     การศึกษาการบังคับใช้
 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย   พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย



 การปฏิบัติงาน คู่มือสำหรับประชาชน สื่อสิ่งพิมพ์ วิดีทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์   ประโยชน์ในแง่ของการร้องเรียนและได้รับการเยียวยาจากการถูกเลือกปฏิบัติ
 รูปแบบต่าง ๆ เพื่อประสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชนโดยตรง   ของประชาชนบางกลุ่มแม้ยังไม่ใช่ในวงกว้าง ก็ควรต้องถือว่า พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ
 นอกจากนี้ ยังมีการประกาศเจตนารมณ์ และทำสัญญาความร่วมมือ (MOU)   เป็นกฎหมายอีกฉบับหนึ่งของประเทศไทยที่มีการบังคับใช้จริง
 กับหน่วยงานรัฐและเอกชนด้วย 61
                     3.2  การบังคับใช้ได้ผลสำเร็จตามเป้าหมายของกฎหมาย

 3.  ผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย   หรือไม่


   3.1  มีการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่     ดังที่ในรายงานฉบับนี้อธิบายและกล่าวถึงมาโดยตลอดผ่าน
                   การอ้างอิงข้อมูล ข้อเท็จจริง สถานการณ์ สถิติ รวมทั้งข้อคิดเห็นของทั้ง
   หากพิจารณาจากข้อเท็จจริง สถานการณ์ การออกอนุบัญญัติ     ผู้บังคับใช้กฎหมายเอง ผู้เสียหายที่เคยร้องขอความเป็นธรรมมาตามกลไก
 การประชาสัมพันธ์ การทำความร่วมมือ ฯลฯ ตามที่กล่าวมาทั้งหมด    คณะกรรมการ วลพ. ภาคประชาสังคมที่ทำงานเกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้

 ในรายงานการศึกษาฉบับนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน บทที่ 3 “การวิเคราะห์  รวมทั้งนักวิชาการ ผู้ศึกษาเห็นว่าจนถึงปัจจุบันภายหลังใช้บังคับมาแล้วกว่า
 ความจำเป็นของผลกระทบของกฎหมาย” ประกอบกับบทที่ว่าด้วยอุปสรรค  5 ปี คงยังไม่สามารถกล่าวได้ว่าวัตถุประสงค์ที่กฎหมายฉบับนี้ตั้งไว้สำเร็จ
 และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ย่อมกล่าวได้ว่าเกือบทุกมาตรการและกลไกที่   ลุล่วง กระทั่งอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจแล้วในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

 พ.ร.บ.ความเท่าเทียมฯ ได้สร้างขึ้นล้วนถูกนำมาบังคับใช้เป็นการทั่วไปกับ  ในมิติของการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ ทั้งนี้ด้วยข้อติดขัดและ
 ประชาชนแล้ว เพียงแต่บางกลไกบังคับใช้มาก บางกลไกบังคับใช้น้อยแตกต่างกัน   อุปสรรคหลากหลายประการ ตั้งแต่ปัญหาที่ตัวบทบัญญัติของกฎหมายเอง
 ออกไป แม้ในท้ายที่สุด ยังกล่าวไม่ได้ว่าการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้บรรลุแล้ว  ที่ยังขาดความชัดเจนในหลายส่วน ทั้งมีลักษณะขัดหรือแย้งกับหลักการสากล

 ซึ่งเจตนารมณ์ หรือได้สร้างความเปลี่ยนแปลงด้านความเสมอภาคระหว่างเพศ   บทบาทการทำหน้าที่ของคณะกรรมการระดับชาติอย่างคณะกรรมการ สทพ.
 ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยได้ แต่ด้วยการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น     ไม่เกิดขึ้นตามที่ควรจะเป็น จนส่งผลให้ไม่เกิดการแก้ปัญหาในระดับโครงสร้าง
 การแก้ไขปรับปรุงนโยบายหรือกฎบางอย่างในบางหน่วยงานรัฐ รวมทั้ง
                   กฎหมาย กฎ ระเบียบของรัฐจำนวนมากยังขัดหรือแย้งกับหลักความเสมอภาค

                   คณะกรรมการ วลพ. ที่ดูเหมือนเป็นกลไกที่ถูกใช้มากที่สุด มีผลงานเป็น
    61   ข้อมูลคลังสารสนเทศของกรมกิจการสตรีฯ, สืบค้นวันที่ 7 เมษายน 2564,     รูปธรรมในเรื่องของการลดการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ ทั้งมีประชาชน
 เข้าถึงได้ที่ http://km.dwf.go.th/home-2-2/; สื่อประชาสัมพันธ์กรมกิจการสตรีฯ,     จำนวนหนึ่งได้รับความเป็นธรรม แต่ก็ยังมีปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับ
 เข้าถึงได้ที่ http://km.dwf.go.th/joooohome-2/media-3/d502-2/; เอกสารเกี่ยวกับ
 การขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมฯ, เข้าถึงได้ที่ https:/  การปรับปรุงแก้ไขในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความล่าช้าของ
 /drive.google.com/drive/u/0/folders/1XGxVe82fbomlt7bVh_3_xD-AsoK0TU   กระบวนการพิจารณาและทำคำวินิจฉัย นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณคำร้องเรียน
 5s?fbclidIwAR3uh9TT6OmftCS36mjOy1X6C510EiDCBYvd1v5SJptCtRS7Utsvaj4D  มีน้อยกว่าความเป็นจริงมาก โดยมีข้อบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือว่าการเลือกปฏิบัติ
 CGs


 108  สถาบันพระปกเกล้า                                            สถาบันพระปกเกล้า    0
   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129