Page 7 - kpi22237
P. 7

2


                           ดังกล่าวให้คณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง

                           สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

                           การจัดท าบัญชีรายชื่อตามวรรคสอง ต้องให้สมาชิกของพรรคการเมืองมีส่วน
                           ร่วมในการพิจารณาด้วย โดยต้องค านึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคต่างๆ

                           และความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง” (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
                           2560) (เน้นโดยผู้เขียน)




                       ประกอบกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (organic law) อย่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ

               ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ได้วางหลักให้รายละเอียดเกี่ยวกับระบบการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง
               ในประเทศอย่างเข้มข้นบนหลักการการสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งขั้นต้น หรือไพรมารี (primary vote)
               ไว้ในมาตรา 49 (หลักการสรรหา) มาตรา 50 (สรรหาผู้รับสมัครแบบแบ่งเขต) และมาตรา 51 (สรรหา

               ผู้รับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ) ดังนี้

                           “มาตรา 49 ในการเลือกตั้งทั่วไป การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน

                           ราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ ให้ด าเนินการสรรหาตาม
                           วิธีการที่ก าหนดในมาตรา 50 และมาตรา 51 เว้นแต่กรณีที่เป็นการส่งผู้สมัคร

                           รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ส าหรับการเลือกตั้ง
                           แทนการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ หรือการเลือกตั้งใหม่ในกรณีที่ไม่มีผู้ใดได้รับเลือกตั้ง
                           หรือกรณีผู้สมัครตายก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง ให้ด าเนินการตามข้อบังคับ


                                  เมื่อมีกรณีต้องสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ให้พรรคการเมืองจัดให้มี
                           คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งประกอบด้วยบุคคลและจ านวนตามที่

                           ก าหนดในข้อบังคับ ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรค
                           การเมืองไม่เกินกึ่งหนึ่งของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และหัวหน้า

                           สาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจ าจังหวัด ทั้งนี้ จ านวน
                           หัวหน้าสาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจ าจังหวัดให้เป็นไป

                           ตามข้อบังคับ แต่อย่างน้อยต้องมีหัวหน้าสาขาพรรคการเมือง ไม่น้อยกว่าสี่
                           สาขาซึ่งมาจากภาคต่างกันที่คณะกรรมการก าหนดตามมาตรา 33 และให้มี

                           หน้าที่ และอ านาจในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร
                           รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ
                           ให้ได้ผู้ซึ่งมีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม จริยธรรม

                           ตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่ก าหนดในข้อบังคับ และตามที่ก าหนดไว้ในมาตรา
                           50 และมาตรา 51


                           ...
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12