Page 442 - kpi21190
P. 442

442



               เคยเกิดขึ้นกับประเทศในฝั่งตะวันตกได้ กลุ่มทุนที่ถือครองฐานข้อมูลย่อมสามารถใช้ประโยชน์                      หลายๆประเทศทั้งในเอเชียและกลุ่มประเทศตะวันตก อนึ่งการเกิดขึ้นของนโยบายดังกล่าว
               จากสิ่งที่ตนมี มาต่อยอดการออกแบบบริการหรือสร้างการตลาดที่ได้เปรียบเชิงแข่งขันเอาเปรียบ                     ในหลายๆ ประเทศมักเกิดจากการผลักดันของคนในเมืองหรือประเทศนั้นๆ เป็นสำคัญ เพราะ
               คู่ต่อสู้ได้ แม้กระนั้นประชาชนที่ดูเหมือนจะได้ประโยชน์สูงสุดก็อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น                        ประสงค์จะให้นโยบายนี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งในประเทศไทยการผลักดันนโยบายการพัฒนาเมือง
                                                                                                                          อัจฉริยะกลับเป็นไปในทิศทางตรงข้าม นั่นคือ การผลักดันนโยบายนี้มาจากกลุ่มชนชั้นนำท้องถิ่น
                    นอกจากนี้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในจีนถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่สามารถเป็นบทเรียนที่สำคัญ                   และข้าราชการ มากกว่าเกิดจากการผลักดันของประชาชน
               ต่อประเทศไทยในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล นั่นคือ จีนมีการใช้ระบบคะแนนความน่าเชื่อถือทาง
               สังคม (social credit) ที่ผูกโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) เข้ากับการประเมินความประพฤติ                        ส่วนด้านข้อสังเกตประเด็นความเหลื่อมล้ำที่มีในนโยบายเมืองอัจฉริยะ แม้นโยบายจะมา
               ของประชาชนในเมืองต่างๆ ครอบคลุมทั้งทางด้านพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ การก่อ                                 จากแนวคิดที่สำคัญในอนาคต และเป็นนโยบายที่สอดรับความความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
               อาชญากรรม หรือแม้แต่การหลีกเลี่ยงหรืองดเว้นการจ่ายภาษีแก่มณฑลต่างๆ ซึ่งมีการประกาศ                         ในเมือง ทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้คนก็ตาม แต่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจแฝงอยู่
               ใช้ครอบคลุมทุกมณฑลของจีนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 หากประชาชนได้คะแนนต่ำก็จะได้ถูกตัด                             ไม่เพียงแค่นั้นนโยบายนี้อาจสร้างความเหลื่อมล้ำที่เข้าไปสัมพันธ์กับมิติทางสังคมและการเมือง
               สวัสดิการที่พึงได้รับจากรัฐ ในขณะที่ผู้ที่มีคะแนนสูงก็จะได้รับส่วนลดจากการใช้บริการจาก                     เช่นประเด็นคนจนกับนโยบายของรัฐ โดยคนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากเหลื่อมล้ำ ทั้งในมิติ

               ภาครัฐ ทิศทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของมณฑลจึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลจีน                             ด้านรายได้ ด้านสิทธิ ด้านโอกาส ด้านอำนาจและด้านศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งทุกด้าน
               อย่างใกล้ชิด และการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะในจีนก็หลีกเลี่ยงมิได้ที่จะไม่ดำเนินการตามนโนบาย                 ย่อมเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน กล่าวคือนโยบายเมืองอัจฉริยะที่ด้านหนึ่งอาจนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำ
               ดังกล่าว หากย้อนกลับมาพิจารณาในประเทศไทยย่อมเป็นสิ่งที่ต้องขบคิดและมองผลกระทบ                              อย่างสาหัสในเมืองมากกว่าเดิม
               ที่อาจเกิดขึ้น หากจะนำระบบดังกล่าวมาใช้ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Karoonporn
               Chetpayark, 2561)                                                                                               ท้ายที่สุดสำหรับข้อสังเกตที่กลุ่มคนได้ประโยชน์จากนโยบายเมืองอัจฉริยะอาจจะไปกระจุกตัว
                                                                                                                          เป็นเพียงแค่คนกลุ่มน้อย ผลประโยชน์ไม่ได้ไปถึงกับคนในวงกว้างที่อยู่ในเมือง อาจเป็นแค่เพียง
                    ในท้ายสุดผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นถึงข้อสังเกตหลักใหญ่เรื่องความเหลื่อมล้ำที่มีในนโยบาย               กลุ่มทุนท้องถิ่น กลุ่มธุรกิจระดับกลางถึงระดับใหญ่ขึ้นไป กลุ่มโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
               เมืองอัจฉริยะ แม้นโยบายเมืองอัจฉริยะนี้จะเป็นนโยบายที่สอดรับความความเจริญเติบโตทาง                         ทั้งยังสะท้อนมาการจัดการทางปกครอง นโยบายเมืองอัจฉริยะในขั้นตอนการพัฒนานโยบายสร้าง
               เศรษฐกิจในพื้นที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้คนก็ตาม แต่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ                        ขึ้นดูเหมือนว่ามีการแสวงหาการมีส่วนร่วมจากคนในเมืองและมีความโปร่งใส แต่มีลักษณะ
               แฝงอยู่ ไม่เพียงแค่นั้นนโยบายนี้อาจสร้างความเหลื่อมล้ำที่เข้าไปสัมพันธ์กับมิติทางสังคมและ                  การตัดสินใจแบบบนลงล่าง (top-down) มีฐานคิดคือการหวังเพื่อขยายความเจริญเติบโตทาง
               การเมือง เช่นประเด็นคนจนกับนโยบายของรัฐ โดยคนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากเหลื่อมล้ำ                            เศรษฐกิจและขยายผลประโยชน์ในเชิงพื้นที่เพียงเท่านั้น

               ทั้งในมิติด้านรายได้ ด้านสิทธิ ด้านโอกาส ด้านอำนาจและด้านศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งทุก
               ด้านย่อมมีความเชื่อมโยง อันเป็นข้อสังเกตสำหรับนโยบายเมืองอัจฉริยะที่ด้านหนึ่งอาจนำไปสู่                    8. ข้อเสนอแนะ
               ความเหลื่อมล้ำอย่างสาหัสในเมืองกว่าเดิมด้วยนโยบายที่หวังดี แต่ผลอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่
               ประสงค์ไว้ และผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อสังเกตที่เสนอมาสำหรับนโยบายพัฒนาเมืองอัจฉริยะ                      1. การเข้ามามีส่วนร่วมปรึกษาหารือ ในเมืองที่มาจากผู้มีส่วนได้เสียหลากหลาย ชนชั้น
               ที่ในอนาคตจะสามารถตอบโจทย์ทุกฝ่ายได้                                                                       และเข้าไปเป็นคณะกรรมการ ไม่ใช่เพียงการนั่งฟังและเสนอความคิดเห็นเท่านั้น โดยเฉพาะ
                                                                                                                          กลุ่มเป้าหมายคนจนเมือง คนด้อยโอกาสในสังคม ด้วยสาเหตุการวางนโยบายและการนำนโยบาย
               7. บทสรุป                                                                                                  เมืองอัจฉริยะไปปฏิบัติอาจมองข้ามหัวผู้คน วางแผนแบบบังคับตลอด ดังนั้นจึงเสนอให้มีส่วนร่วม

                                                                                                                          เพราะการพัฒนาเมืองด้วยนโยบายเมืองอัจฉริยะ ความเป็นอยู่ของผู้คนที่หลากหลายต้องมี
                                                                                                                          คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย
                    ประเด็นคำถามทั้งสองข้อ คือหนึ่งใครเป็นผู้มีบทบาทหรืออิทธิพลในการผลักดันนโยบาย
        บทความที่ผ่านการพิจารณา   การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย และสองข้อสังเกตความ      จากการพัฒนานโยบายเมืองอัจฉริยะ ทั้งมีมโนทัศน์ที่เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์มากกว่ามูลค่า
                                                                                                                               2. การสร้างพื้นที่ต่อรองและต่อสู้เพื่อพัฒนาเมืองร่วมกันของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
               เหลื่อมล้ำด้านนโยบายการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ (Smart City)” ในประเทศไทยเป็นอย่างไร


                                                                                                                          ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประเด็นนี้ควรนำมาเป็นประเด็นต่อรองที่สำคัญต่อการกำหนด
                    ความเป็นเมืองได้เป็นประเด็นหลักสำหรับการพัฒนาเมือง มาจากประชากรโลกกว่าร้อยละ
                                                                                                                          และนำนโยบายเมืองอัจฉริยะไปปฏิบัติ
               55 อาศัยอยู่ในเขตเมือง และแนวโน้มประชากรจะเข้ามาอาศัยในเขตเมืองมากขึ้น การขับเคลื่อน
               เมือง (City) และการพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อตอบสนอง
               การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นแนวคิดการพัฒนาที่เกิดขึ้นใน
   437   438   439   440   441   442   443   444   445   446   447