Page 352 - kpi21190
P. 352
352
กรณีแรก หากคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ของแต่ละพรรคเท่ากันจนทำให้ไม่สามารถจัดสรรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี
พุทธศักราช 2560 มาตรา 91 (4) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย รายชื่อได้ครบ ให้นำค่าเฉลี่ยของแต่ละพรรคการเมืองต่อจำนวนสมาชิกสภาผู้แทน
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (5) แล้ว ผลลัพธ์จาก ราษฎรที่พึงมี 1 คนมาพิจารณา หากพรรคใดมีคะแนนมากกว่าให้พรรคการเมืองนั้น
การคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นจะได้รับ มีสิทธิได้รับการจัดสรรแบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 1 คนและหากมีจำนวนเท่ากันอีกให้ใช้
เบื้องต้นไม่เกินจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ไม่เกิน Overhang) วิธีจับสลาก เมื่อได้จำนวนผู้ได้รับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง
35
ให้นำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้ว ให้ผู้สมัครตามลำดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี
พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (4) มาใช้บังคับ กล่าวคือ การจัดสรรจำนวนสมาชิกสภา รายชื่อของพรรคการเมืองนั้นเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 36
ผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองจะได้รับครบ 150 คน หากยังไม่ครบ
จำนวน 150 คน ให้พรรคการเมืองที่มีเศษจากการคำนวณมากที่สุดได้รับการจัดสรร อย่างไรก็ตาม การคำนวณที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตาม
จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อเพิ่ม 1 คนตามลำดับจนครบ รัฐธรรมนูญ 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภา
31
150 คน กรณีที่เศษที่เหลือของแต่ละพรรคเท่ากันจนทำให้ไม่สามารถจัดสรรสมาชิก ผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 นี้ มีความคิดเห็นที่แตกต่างถึงวิธีการคำนวณจำนวนสมาชิกสภา
สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อได้ครบ ให้นำค่าเฉลี่ยของแต่ละพรรคการเมืองต่อ ผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อกรณีที่ผลลัพธ์ของการคำนวณเกินจำนวนที่สมาชิกสภาผู้แทน
จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี 1 คนมาพิจารณา หากพรรคใดมีคะแนน ราษฎรพึงจะได้ (Overhang) โดยวิธีการคำนวณ 2 วิธี ดังนี้
มากกว่าให้พรรคการเมืองนั้นมีสิทธิได้รับการจัดสรรแบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 1 คนและ ความเห็นแรก แนวคิดของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการ
หากมีจำนวนเท่ากันอีกให้ใช้วิธีจับสลาก 32 ร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เห็นว่า ควรนำจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ “เบื้องต้น” มาปรับลดลง
ตามอัตราส่วนตามมาตรา 128 (5) ก่อน แล้วจึงค่อยจัดให้ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อให้เต็มตาม
กรณีที่สอง กรณีที่ผลลัพธ์จากการคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อที่
พรรคการเมืองนั้นจะได้รับเบื้องต้นทั้งหมด เกินจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบ จำนวน ตามมาตรา 128 (4) แนวคิดนี้มองว่าคะแนนทุกคะแนนเสียงเป็นไปตามเจตจำนงของ
บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคจะได้รับ (Overhang) กล่าวคือ พรรคการเมืองทุกพรรค ประชาชน ดังนั้น จึงต้องนำคะแนนทุกคะแนนมาคิดคำนวณทั้งหมด เนื่องจากพระราชบัญญัติ
ได้รับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อรวมกันแล้วเกินหนึ่งร้อยห้าสิบคน ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 (2),(3) ใช้คำว่า
ให้นำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร “ส.ส.บัญชีรายชื่อพึงมีเบื้องต้น” การใช้วิธีคิดตามแนวคิดนี้ทำให้ไม่ตัดพรรคการเมืองที่ได้คะแนน
พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (7),(4),(6) มาใช้บังคับ โดยดำเนินการคำนวณปรับจำนวน เสียงที่ต่ำกว่าคะแนนเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละพรรคพึงมีเบื้องต้น แนวความคิด
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อใหม่ โดยคำนวณตามอัตราส่วนที่ทุกพรรค ดังกล่าวจะทำให้มีตัวแทนของพรรคการเมืองในสภาที่เป็นพรรคเล็กๆ เข้ามาเป็นตัวแทนในสภา
37
จะได้รับการจัดสรร จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อซึ่งเมื่อรวมแล้ว มากขึ้น แม้คะแนนเสียงของพรรคการเมืองจะไม่ถึงคะแนนของแต่ละพรรคพึงมีก็ตาม
ไม่เกินหนึ่งร้อยห้าสิบคน โดยให้นำจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ความเห็นที่สอง เป็นสูตรการคำนวณวิธีคิดแบบนักวิชาการ มีความเห็นว่าในการคำนวณ
ที่แต่ละพรรคการเมืองจะได้รับคูณด้วยหนึ่งร้อยห้าสิบ หารด้วยผลบวกของหนึ่งร้อยห้าสิบ ส.ส. บัญชีรายชื่อนั้นให้จัดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเต็มตามจำนวน ตามพระราชบัญญัติประกอบ
กับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่เกินจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบ 33 รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (4) ก่อน
ถ้าไม่ครบจำนวน 150 คน จึงค่อยดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
นำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (4) มาใช้บังคับ โดยการจัดสรรจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 (4) ตอนท้าย และ (6) คือจัดสรรให้พรรค
ละหนึ่งคนตามลำดับเศษจนครบ 150 คน แต่ถ้าเกิน 150 คน ก็ดำเนินการตาม (7) คือลดลง
แบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองจะได้รับครบ 150 คน หากยังไม่ครบจำนวน 150 คน
บทความที่ผ่านการพิจารณา 31 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (4) ต่ำกว่าคะแนน ส.ส. พึงมี รวมไปถึงพรรคการเมืองใดที่มีจำนวน ส.ส.มากกว่าหรือเท่ากับจำนวน
ตามอัตราส่วนจนครบ 150 คน ซึ่งแนวความคิดนี้ทำให้เห็นว่าพรรคการเมืองใดที่ได้คะแนน
ให้พรรคการเมืองที่มีเศษจากการคำนวณมากที่สุดได้รับการจัดสรรจำนวนสมาชิกสภา
34
ผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อเพิ่ม 1 คนตามลำดับจนครบ 150 คน กรณีที่เศษที่เหลือ
35
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (6)
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (8)
36
32
ไทยรัฐออนไลน์. กรธ.ย้ำสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ มีสูตรเดียว อย่าแปรกฎหมายผุดสูตรใหม่. เข้าถึงข้อมูลเมื่อ
37
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (7)
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (4)
34
33 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 (6) วันที่ 29 ตุลาคม 2562 จาก https://www.thairath.co.th/news/politic/1536450
