Page 231 - kpi20902
P. 231
225
3) ประชุมระดับต้าบลและสภาองค์กรชุมชน ทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน กำรประชุม
ในระดับต ำบลหรือที่เรียกว่ำประชุมสภำผู้น ำ 79 หรือประชุมสภำองค์กรชุมชนต ำบล ได้ถูกก ำหนดไว้เป็นวันที่
25 ของทุกเดือน เหตุที่ก ำหนดไว้เช่นนี้เพื่อจะไม่ได้เกิดควำมซ้ ำซ้อนและจะได้น ำข้อเสนอจำกที่ประชุมหมู่บ้ำน
เข้ำสู่ที่ประชุมต ำบลได้ทัน ซึ่งกำรประชุมสภำฯ แต่ละครั้งจะมีตัวแทนของแต่ละหมู่บ้ำนเข้ำร่วมประชุม
หมู่บ้ำนละ 8-9 คน โดยได้แบ่งสัดส่วนออกเป็นหมู่บ้ำนๆ ละ 8-9 คน คือ 1) ตัวแทนกลุ่มเยำวชน
2) ตัวแทนกลุ่ม อสม. (สำธำรณสุข) 3) ตัวแทนกลุ่มผู้สูงอำยุ 4) ตัวแทนกลุ่มอำชีพ 5) ตัวแทนกลุ่มสตรี
6) ตัวแทนกลุ่มกองทุนหมู่บ้ำน 7) ผู้ใหญ่บ้ำน 8) ผู้อ ำนวยกำรโรงเรียน 9) พระ ผู้ทรงคุณวุฒิ หรือปรำชญ์
ชำวบ้ำนที่เป็นที่ยอมรับกันในหมู่บ้ำนนั้นๆ รวมเป็น 79 คน โดยในช่วงที่ยังเป็นสภำต ำบลหรือสภำ 79 ยังมี
ก ำนันท ำหน้ำที่เป็นประธำนในที่ประชุม เมื่อมีกำรจัดตั้งเป็นสภำองค์กรชุมชนตำม พ.ร.บ สภำองค์กรชุมชน
ต ำบล พ.ศ.2551 ได้มีกำรแต่งตั้งประธำนสภำขึ้นมำใหม่ซึ่งประธำนสภำองค์กรชุมชนท่ำนแรกก็คือ
นำยศิวโรฒ จิตนิยม ซึ่งเป็นแกนน ำในด้ำนกำรพัฒนำต ำบลหนองสำหร่ำยนั่นเอง โดยได้มีกำรแต่งตั้งนำยก
องค์กำรบริหำรส่วนท้องถิ่น กับสมำชิกสภำฯ เข้ำร่วมเป็นผู้ทรงวุฒิด้วย โดยฝ่ำยท้องถิ่นซึ่งเป็นคนในต ำบล
นั่นเองเสมือนกับท ำหน้ำที่เป็นผู้สนับสนุนกำรท ำงำนของสภำองค์กรชุมชน ตั้งแต่กำรเอื้อเฟื้อสถำนที่
จัดประชุมโดยใช้สถำนที่ท ำกำรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และน ำเอำข้อสรุป ควำมต้องกำร ปัญหำของ
ชำวบ้ำนต ำบลหนองสำหร่ำยไปปรับใช้ในกำรท ำงำน เช่น บรรจุไว้ในแผนยุทธศำสตร์กำรพัฒนำขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
ขั นตอนที่ 3 การท้างานอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้กำรแก้ไขปัญหำควำมเหลื่อมล้ ำด้ำนกำรเมืองในต ำบลหนองสำหร่ำยเกิดกำรขับเคลื่อน
งำนอย่ำงเป็นรูปธรรมตำมข้อเสนอในเวทีที่ประชุมสภำองค์กรชุมชนต ำบล จ ำเป็นจะต้องอำศัยศักยภำพกำร
ท ำงำนของกลุ่มอำชีพต่ำงๆ จะต้องมีโครงสร้ำงที่ชัดเจน เช่น มีประธำน รองประธำน
ฝ่ำยกำรเงิน ฝ่ำยปฏิคม เป็นต้น ซึ่งเป็นรูปแบบกำรปกครองและเป็นกำรฝึกใช้อ ำนำจอย่ำงหนึ่งเช่นเดียวกัน
เพื่อที่จะท ำให้กำรท ำงำนเกิดควำมสอดคล้องกัน และสำมำรถที่จะปฏิบัติหน้ำที่แทนกันได้เพื่อให้งำนหรือ
กิจกรรมของกลุ่มสำมำรถขับเคลื่อนไปได้ไม่มีปัญหำ สะท้อนให้เห็นถึงระบบอ ำนำจในต ำบลหนองสำหร่ำย
ที่มีลักษณะเป็นแนวรำบมำกกว่ำกำรสั่งกำรจำกส่วนบนเพียงอย่ำงเดียว แต่เพื่อให้เป็นไปตำมข้อตกลงของ
ที่ประชุมสภำต ำบลและกำรปฏิบัติให้เกิดผลอย่ำงเป็นรูปธรรม กระบวนกำรท ำงำนทั้งหมดสมำชิกทุกคน
ต้องมีส่วนร่วม เนื่องจำกเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น ในขณะเดียวกันก็สำมำรถดึงศักยภำพ
ให้กลุ่มย่อยอื่นๆ เข้ำมำร่วมบริหำรจัดกำรร่วมกันได้ ท ำให้เกิดระบบในกำรท ำงำนอย่ำงมีประสิทธิภำพ
ที่เรียกว่ำ ควำมสัมพันธ์เชิงอ ำนำจ