Page 19 - kpi20902
P. 19
18
พื นที่แต่สามารถที่จะมีกระบวนการจัดการตนเองสามารถระงับ ยับยั ง และแก้ไขปัญหาของชุมชนตนเอง
จนจัดเป็นพื นที่ต้นแบบในการเรียนรู้วิธีการพึ่งตนเองจนสามารถเป็นพื นที่แห่งการเรียนรู้ให้กับชุมชนอื่นๆ ได้
ท้าให้การศึกษาในครั งนี นักวิจัยจึงได้ก้าหนดขอบเขตการศึกษา ออกเป็น 4 ด้าน ดังต่อไปนี
1.3.1 ขอบเขตด้านเนื อหา เนื อหาที่นักวิจัยได้ก้าหนดในการศึกษาครั งนี ครอบคลุมเนื อหาของ
ประวัติความเป็นมาของชุมชนบ้านหนองสาหร่าย สภาพปัญหาหรือปรากฏการณ์ที่ชุมชนต้องประสบกับ
เหตุการณ์ต่างๆ จนน้าไปสู่วิธีการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาสภาพความ
เหลื่อมล ้าด้านการเข้าถึงแหล่งทุนในการด้ารงชีพ จนกระทั่งถึงการประกอบกิจการต่างๆ กระบวนการหรือ
ขั นตอนในการแก้ไขปัญหาที่เริ่มจากแนวคิดของผู้น้าหรือบุคคลที่เป็นแกนน้าชุมชน จนสามารถประกอบเป็น
โครงสร้างของแกนน้าชุมชนที่ร่วมมือกันบริหารจัดการชุมชนร่วมกัน โดยอาศัยทุนทางสังคมที่ส้าคัญคือความ
เป็นเครือญาติ เป็นจุดยึดโยงที่ส้าคัญที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือและไว้ใจซึ่งกันและกัน ก่อให้เกิดการ
ท้างานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลกระทบที่เกิดขึ นตามมาในภายหลัง ที่สามารถสร้างชุมชนบ้าน
หนองสาหร่ายให้กลายเป็นต้นแบบของการจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องการเข้าถึงแหล่งทุนในการประกอบอาชีพ
ได้ในที่สุด
1.3.2 ขอบเขตด้านแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างกรอบแนวคิดเพื่อเป็นการ
สะท้อนโครงสร้างของความคิดในการศึกษางานวิจัยเรื่องนี ได้ถูกก้าหนดหรือสร้างจากการทบทวนวรรณกรรม
ทั งจากแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยได้ก้าหนดขอบเขตของวรรณกรรมไว้ อย่างกว้างๆ 7 หลักคิด
ด้วยกัน คือ
1) แนวคิดเรื่องความเหลื่อมล ้า
2) แนวคิดชุมชนเข้มแข็ง
3) แนวคิดชุมชนท้องถิ่น
4) แนวคิดการจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น
5) ทฤษฎีการมีส่วนร่วม
6) ทฤษฎีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
7) งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเนื อหาของวรรณกรรมดังกล่าว จะครอบคลุมตั งแต่ความหมาย โครงสร้างหรือองค์ประกอบ
ของแนวคิดนั นๆ จุดเด่น จุดด้อยของวรรณกรรมดังกล่าว และความชัดเจนที่สะท้อนจากการทบทวนวรรณกรรม
ดังกล่าว จนถึงโดดเด่นของการน้ามาใช้ในการศึกษาของนักวิจัยครั งนี