Page 282 - kpi20764
P. 282
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 281
มีการระบุตัวตนชัดเจนและติดตามเรื่องที่แจ้งโดยตรง ทำาให้มีการกระทบ
กระทั่งกันแต่ไม่ถึงขั้นที่จะทำาให้เกิดอันตราย ส่วนกรณีที่ผู้แจ้งเบาะแส
ไม่ประสงค์ที่จะระบุตัวตน บ้างก็มีกรณีที่ให้ข้อมูลการกลั่นแกล้งเพื่อหวัง
ทำาลายชื่อเสียง ไม่ได้แจ้งเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ
ปัญหาการกระทบกระทั่งกันนี้มักเกิดขึ้นจากการขัดกัน
ในผลประโยชน์ระหว่างบุคคลหรือกลุ่มบุคคล 2 ฝ่าย ดังนั้นเพื่อให้ความ
เป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย จึงต้องเรียกทั้งผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียนมา
ทำาความเข้าใจร่วมกันเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องที่ร้องเรียนทราบถึง
ข้อกฎหมายและกระบวนการดำาเนินงาน รวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมาย
อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำาในการใช้ประโยชน์จาก
ทรัพยากรระหว่างประชาชนทั่วไปและนายทุนผู้มีอำานาจทั้งทางเศรษฐกิจ
และการเมืองในท้องถิ่นนั้นๆ นั่นหมายความว่า ความพยายามที่ต้องการ
จะรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของสังคมและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลร้าย
กับตนในอนาคตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทำาให้ประชาชนส่วนใหญ่
ให้ความสำาคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยไม่จำาเป็นต้องมีการจูงใจด้วยการให้สินรางวัลเพื่อให้มีการแจ้งเบาะแส
เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
มาตรการในการคุ้มครองพยานจะถูกนำามาใช้เมื่อเรื่องร้องเรียนนั้น
กลายเป็นคดีความ และมีการประสานขอความร่วมมือเพื่อดำาเนินการ
คุ้มครองพยานจากสำานักงานตำารวจแห่งชาติหรือกรมสืบสวนคดีพิเศษ
หรือทหารหากเกี่ยวพันกับความมั่นคง ส่วนเรื่องร้องเรียนที่ยังไม่กลายเป็น
คดีความ ระเบียบราชการกำาหนดไว้ให้เจ้าพนักงานหรือหน่วยงานผู้รับแจ้ง
จะต้องเก็บรักษาความลับของผู้ร้องเรียนและไม่ทำาให้เกิดการรั่วไหลของ
ข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียน ซึ่งมาตรการที่นำามาปรับใช้ควรเป็นมาตรฐาน
เดียวกันทั้งหมดระหว่างหน่วยงานที่รับเรื่องร้องเรียนและหน่วยงาน
inside_WhistleBlower_c4(cs5).indd 281 13/2/2562 16:11:38