Page 53 - kpi20431
P. 53

จังหวัดสุราษฎร์ธานีเห็นชอบ จึงได้มีการเขียนโครงการเข้าแผนสู่ข้อบัญญัติ
            ได้มางบประมาณมาดำาเนินการ 1 โครงการ คือ โครงการสอนเด็กในโรงเรียน

            แต่โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ว่าวไทย ไม่ได้รับการอนุมัติงบ
            ประมาณ (เนื่องจากช่วงนั้นมีประเด็นการใช้งบประมาณภาครัฐทำากิจกรรม

            กับชุมชนของพื้นที่อื่น ที่กำาลังถูกตรวจสอบโดยภาครัฐ) ซึ่งเป็นเหตุให้เกิด
            ความร่วมมือกันในภาคประชาชนเพื่อผลักดันให้เกิดมหกรรมว่าวขึ้นให้ได้

            และเมื่อไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด
            สุราษฎร์ธานี จึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนจากมหกรรมอนุรักษ์ว่าวไทย เป็น

            “มหกรรมว่าวนานาชาติ” แทน

                    โดยในความคิดของนายเฉลิมพล ถ้าเป็นงานว่าวไทย คงจะเรียก

            คนได้ยาก เนื่องจากโดยลักษณะว่าวแล้วไม่ได้มีอะไรดึงดูดมาก แต่ถ้าเป็น
            ว่าวนานาชาติจะสามารถดึงดูดคนได้มาก แต่พอทางองค์การบริหารส่วน

            จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตัดสินใจใหม่ ไม่ให้จัดงานเทศกาล (เพราะเกรงจะผิด
            กฎของสำานักงานตรวจเงินแผ่นดิน) ก็เข้าสู่ช่วงดิ้นรนหาทางจัดงานกันเอง


                    ดังนั้น นายอาทรจึงมีบทบาทมากขึ้นในการติดต่อประสานงาน

            (มีค่าใช้จ่ายสองแสนกว่าบาท จากค่าใช้จ่ายทั้งหมดเจ็ดแสนบาท) เพื่อ
            ติดต่อประสานงานกับต่างชาติ (เวลาติดต่อต้องติดต่อประสานล่วงหน้า
            มีการจอง เสียค่าจอง) ซึ่งการระดมทุนค่าใช้จ่ายนั้นเมื่อไม่ได้รับการสนับสนุน

            จากทางภาครัฐทางกลุ่มผู้จัดงานจึงกลับมาใช้วิธีสร้างการมีส่วนร่วมดึง

            ความร่วมมือจากประชาชน (เป็นความคิดจากกลุ่มผู้เริ่มก่อตั้ง 4 คน)
            จนเกิดเป็นการขายเสื้อเพื่อระดมทุน ได้มาส่วนหนึ่ง (ขายโดยการให้กลุ่ม
            อาสาสมัครภาคประชาชนเป็นคนช่วยขาย ตั้งเป้าไว้ประมาณสองพันตัว







           52
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58