Page 20 - kpi20271
P. 20
ผลการส�ารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้
[PEACE SURVEY] ครั้งที่ 3 เมษายน – พฤษภาคม 2560
ธรรม (ร้อยละ 59.6) ความรุนแรงในพื้นที่เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐเลี้ยงไข้เพื่อเอางบประมาณ (ร้อยละ 54.9)
ความรุนแรงในพื้นที่เกิดจากกลุ่มก่อการร้ายสากล (ร้อยละ 51.7) ในขณะที่มุมมองต่อความรุนแรงในพื้นที่
เกิดจากกลุ่มก่อการร้ายสากลเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบจากการส�ารวจครั้งที่ 1 และ 2
4.2) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง
ประชาชนทั่วไปและกลุ่มผู้น�าความคิดที่ตอบว่าไม่รู้และขอไม่ตอบว่าใครเกี่ยวข้องกับความ
รุนแรงบ้างนั้น คิดรวมกันมาเป็นล�าดับที่หนึ่ง [ร้อยละ 29.3 ในส่วนประชาชนทั่วไป (ไม่รู้ ร้อยละ 19.6 และ
ขอไม่ตอบ ร้อยละ 9.7) และร้อยละ 20.3 ในส่วนผู้น�าความคิด (ไม่รู้ ร้อยละ 10.7 และขอไม่ตอบ ร้อยละ 9.6)]
ส�าหรับประชาชนทั่วไป ผู้ที่ตอบ มองว่ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงสามล�าดับแรกคือ
ทหารพราน (ร้อยละ 8.9) ขบวนการ (ร้อยละ 8.7) และรัฐบาล (ร้อยละ 7.8) ในความเห็นของผู้น�าความคิด
มองว่า กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงสามล�าดับแรกคือ ขบวนการ (ร้อยละ 10.9) รัฐบาล (ร้อยละ 9.6)
และ กลุ่มผู้มีอิทธิพล / อ�านาจมืด (ร้อยละ 8.0)
4.3) การเรียกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่
ทั้งประชาชนทั่วไปและผู้น�าความคิดต่างเรียกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้เหมือนกันว่าเป็น “การก่อ
ความไม่สงบ” (ร้อยละ 51.1 ในส่วนประชาชนทั่วไปและร้อยละ 54.5 ในส่วนผู้น�าความคิด) ส่วนข้อที่มีผู้ตอบ
รองลงมานั้น ในส่วนของประชาชนทั่วไปคือ ไม่รู้ (ร้อยละ 12.9) ในขณะที่ผู้น�าความคิดจะเป็นข้อ “การก่อเหตุ
รุนแรง” ที่มีสัดส่วนเท่ากับ “การขอไม่ตอบ” (ร้อยละ 17.1)
4.4) ความรุนแรง
ทั้งประชาชนทั่วไปและผู้น�าความคิดต่างเห็นตรงกันว่า “ถ้าความรุนแรงลดลง จะท�าให้เกิด
บรรยากาศที่ดีในการแก้ปัญหาร่วมกันมากขึ้น” (ร้อยละ 57 ในส่วนประชาชนทั่วไปและร้อยละ 69.2 ในส่วน
ผู้น�าความคิด) และ “ไม่ควรใช้ความรุนแรงไม่ว่ากรณีใดๆ” (ร้อยละ 55.4 ในส่วนประชาชนทั่วไปและ
ร้อยละ 69.2 ในส่วนผู้น�าความคิด)
5. มุมมองต่อกระบวนการสันติภาพ / สันติสุขและการพูดคุย
5.1) สันติภาพ / สันติสุข
ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลใช้ค�าว่า “สันติสุข” แทนค�าว่า “สันติภาพ” ในแนวทางนโยบายการพูดคุยซึ่งได้
ก่อให้เกิดการถกเถียงถึงความหมายและนัยที่แตกต่างกันของสองค�านี้ขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่สนใจติดตาม
ประเด็นการสร้างสันติภาพอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าคนในพื้นที่คิดอย่างไรต่อสองค�าดังกล่าว
ผลการส�ารวจพบว่า ในมุมมองของประชาชนทั่วไป ค�าว่า “สันติภาพ” และ “สันติสุข” มีความหมาย
โดยรวมไม่แตกต่างกันมากนัก คือ คนในสังคมอยู่ร่วมกันได้ สามัคคีกัน มีอิสรภาพและเสรีภาพ และไม่มี
ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงการให้น�้าหนักความส�าคัญของความหมายในแต่ละค�าจากการจัด
ล�าดับแล้ว ในมุมมองของผู้น�าความคิดจะสอดคล้องกันกับของประชาชนทั่วไป คือมีนัยที่แตกต่างกันว่า “สันติสุข”
มีงานท�า มีเงินใช้ ส่วน “สันติภาพ” นั้น มีความยุติธรรมและความเป็นธรรม
19