Page 18 - kpi20271
P. 18
ผลการส�ารวจความคิดเห็นประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้
[PEACE SURVEY] ครั้งที่ 3 เมษายน – พฤษภาคม 2560
สถานที่ท�างาน คนจ�านวนมากเห็นว่าวัฒนธรรมและศาสนาไม่ใช่ประเด็นส�าคัญในการพิจารณา (กรณีโรงเรียน
ร้อยละ 42.5 ในส่วนของประชาชนทั่วไป และร้อยละ 46.3 ในกลุ่มผู้น�าความคิด และกรณีสถานที่ท�างานร้อยละ
42.2 ในส่วนของประชาชนทั่วไป และร้อยละ 49.8 ในกลุ่มผู้น�าความคิด)
ส�าหรับมุมมองด้านหญิงชายนั้น ทั้งประชาชนทั่วไปและผู้น�าความคิดส่วนใหญ่มองว่าผู้ชายท�า
หน้าที่ได้ดีกว่าผู้หญิงในทุกด้าน ทั้งในด้านการเป็นผู้น�าทางการเมือง การสร้างสันติภาพ และเศรษฐกิจ
ตามล�าดับ แต่หากมองเฉพาะลงไปว่าผู้หญิงท�าหน้าที่ในด้านใดดีกว่าผู้ชาย ค�าตอบจะเป็นด้านเศรษฐกิจ และ
ประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งประชาชนทั่วไปและผู้น�าความคิดมองว่าผู้ชายและผู้หญิงท�าหน้าที่ด้านสันติภาพ
ได้ดีพอๆ กัน
3. มุมมองต่อขบวนการและรัฐบาล
3.1) ขบวนการ
ในมุมมองของประชาชนทั่วไป และผู้น�าความคิดส่วนใหญ่ มองกลุ่มคนที่ใช้อาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
ในพื้นที่ขณะนี้ว่าเป็น “ผู้ก่อความไม่สงบ” (ร้อยละ 40) รองลงมาของกลุ่มประชาชนทั่วไปคือตอบว่าไม่รู้
(ร้อยละ 14.5) และ ผู้ก่อเหตุรุนแรง (ร้อยละ 11.8) แต่ในกลุ่มผู้น�าความคิด รองลงมาจะเรียกกลุ่มนี้ว่า ผู้ก่อเหตุ
รุนแรง (ร้อยละ 14.4) และ กลุ่มผู้มีความคิดเห็นและอุดมการณ์แตกต่างจากรัฐ (ร้อยละ 11.7) โดยเป็นที่น่าสังเกต
ว่า แม้สื่อกระแสหลักบางส่วนในกรุงเทพฯ จะเรียกกลุ่มขบวนการดังกล่าวว่า “โจรใต้” แต่คนส่วนใหญ่
ในพื้นที่กว่าร้อยละ 95 กลับไม่มองอย่างนั้น
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าเคยได้ยินชื่อขบวนการใดบ้างนั้น ค�าตอบของทั้งประชาชนทั่วไปและผู้น�าความคิดเหมือน
กันคือ เคยได้ยินชื่อของกลุ่มบีอาร์เอ็น (BRN) มากที่สุด ตามมาด้วย พูโล (PULO) เบอร์ซาตู (BERSATU)
มารา ปาตานี (MARA PATANI) จีเอ็มไอพี (GMIP) และบีไอพีพี (BIPP) ตามล�าดับ
3.2) ปัจจัยที่ท�าให้คนเข้าร่วมขบวนการ
จากผลส�ารวจสะท้อนว่า กลุ่มประชาชนทั่วไปและกลุ่มผู้น�าความคิดจะมองเหตุผลของการเข้า
ร่วมขบวนการในแง่ของปัจจัยทางสังคมและปัจจัยส่วนบุคคลเป็นหลัก คือ การติดยาเสพติด การขาดการ
ศึกษา และหลงผิด แต่เมื่อพิจารณาในแง่ของปัจจัยทางการเมือง พบว่า ประชาชนทั่วไปและกลุ่มผู้น�าความคิด
มีจ�านวนผู้ตอบว่าไม่รู้และขอไม่ตอบรวมกันสูงที่สุดในปัจจัยเหล่านี้ คือ การต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ปลดปล่อย
ปาตานีเป็นรัฐอิสระ การปกป้องอัตลักษณ์วัฒนธรรมมลายูปาตานี การปกป้องและฟื้นฟูศาสนาอิสลาม และรู้สึก
ว่าใช้สันติวิธีเรียกร้องแล้วไม่ได้ผล
3.3) เป้าหมายหลักของขบวนการ
ประชาชนทั่วไป และกลุ่มผู้น�าความคิดในระดับพื้นที่ ประมาณ 1 ใน 3 ตอบว่าไม่รู้ว่าเป้าหมาย
หลักของขบวนการคืออะไร (ร้อยละ 36.3 ในส่วนประชาชนทั่วไป และร้อยละ 28.4 ในส่วนผู้น�าความคิด) ซึ่ง
สาเหตุส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะการด�าเนินงานของขบวนการ ซึ่งมีลักษณะปิดลับทั้งในแง่ของตัวบุคคลและ
แนวทางขององค์กร ท�าให้คนในสังคมไม่มีโอกาสได้รับข้อมูลจากกลุ่มขบวนการโดยตรง หรืออาจจะรู้แต่ไม่กล้า
ที่จะตอบก็เป็นได้
17