Page 8 - kpi19911
P. 8
8
1.4. ระเบียบวิธีวิจัยและขอบเขตการด าเนินงาน
1.4.1 ระเบียบวิธีวิจัย
ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยเชิงส ารวจ โดยการรวบรวมกรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจริงจากพื้นที่ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ปรากฏจากเอกสารและจากการสัมภาษณ์ข้อเท็จจริงจากตัวบุคคล และข้อมูลที่ปรากฏเป็น
ข่าวในสื่อระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ และการน าฐานข้อมูลจากข้อร้องเรียนจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น
กระบวนการร้องเรียนผ่านศูนย์ด ารงธรรม ส านักงานจังหวัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตลอดจน
การสัมภาษณ์ผู้น าท้องถิ่นและบุคคลที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ความขัดแย้ง โดยการจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบเอกสารและ
ข้อเท็จจริงและน ามาจัดเป็นหมวดหมู่ประเภทของกลุ่มความขัดแย้งในแต่ละด้านที่ส าคัญ เช่น การเมือง
สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม โดยน ามาวิเคราะห์สถานภาพความขัดแย้ง ความรุนแรง ระดับการรับรู้
ของสังคม และวิธีการจัดการความขัดแย้ง เพื่อน าไปสู่วิธีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่นั้นๆ
1.4.2 ขอบเขตการด าเนินงาน
ขอบเขตการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงส ารวจและการก าหนดประเด็นปัญหาเบื้องต้น โดยวิเคราะห์ความ
น่าเชื่อถือของข้อมูลจากข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานภาครัฐที่มีการตรวจสอบข้อร้องเรียนแล้ว โดยรูปแบบการส ารวจ
นั้นประกอบไปด้วยข้อมูล คือ ประเภทความขัดแย้ง ระดับความขัดแย้ง ความเป็นมา วิธีแก้ปัญหา บทบาทของ
หน่วยงานภาครัฐและชุมชนที่มีต่อปัญหาโดยผู้วิจัยจะน าข้อมูลดังกล่าวมารวบรวมและบันทึกเป็นแผนที่ข้อมูล
ความขัดแย้ง โดยแยกประเภทความขัดแย้ง ผู้ที่มีส่วนได้เสียกับความขัดแย้ง การสอบถามจากเหตุผลของความ
ขัดแย้ง การบริหารจัดการความขัดแย้งที่เกิดขึ้นและแนวโน้มความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหากไม่มีการ
บริหารจัดการความขัดแย้งที่ดีและเป็นทางออกให้กับชุมชนแต่ละพื้นที่
โดยรูปแบบการด าเนินการวิจัยในครั้งนี้จะเป็นการลงพื้นที่สัมภาษณ์และเก็บแบบสอบถามหรือเครื่องมือ
การวิจัยเชิงส ารวจในประเด็นส าคัญและน ามาจัดกลุ่มเพื่อน าเสนอเป็นแผนที่ความขัดแย้ง (Conflict Mapping)
ให้กับส านักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เพื่อน าฐานข้อมูลดังกล่าวไปวางแผนในการบริหารความ
ขัดแย้งในภาพรวมของประเทศต่อไป
1.5.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
(1)ได้ข้อมูลสาเหตุความขัดแย้ง คู่ขัดแย้ง ประเภทความขัดแย้ง ระดับความขัดแย้ง ความเป็นมาวิธี
แก้ปัญหา ที่โดยการจัดท าแผนที่ขัดแย้ง (Conflict Mapping) ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด
(2)ได้ตัวแทนประชาชนในพื้นที่และช่องทางการแสดงออกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยชุมชนเอง
(3)ได้เครือข่ายทางสังคม เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้งอันเนื่องจากโครงการหรือนโยบายของรัฐ