Page 317 - kpi19903
P. 317
282
ส าหรับการมีนักการเมือง/พรรคการเมืองเป็นตัวแทนทางความคิด พบว่า 1) การมีพรรคประชาธิปัตย์เป็น
ตัวแทนทางความคิดสัมพันธ์ทางบวกกับการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ (OR=7.70) 2) การมีพรรคเพื่อไทยเป็น
ตัวแทนทางความคิดสัมพันธ์ทางลบต่อการเลือกผู้สมัครจากพรรคอื่น ๆ (OR=0.05)
ทั้งนี้ตัวแบบมีความแม่นย าในการจ าแนกได้ถูกต้อง 83.80% ดังแสดงในตารางที่ 17.4 ซึ่งสูงกว่า Base
rate คือร้อยละที่เลือกพรรคเพื่อไทย (53.10%) อันเป็นพรรคการเมืองที่มีคนเลือกมากที่สุดแสดงให้เห็นว่าตัว
แบบจ าแนกมีความแม่นย าสูงมาก นอกจากนี้ตัวแบบมีความกลมกลืนกับข้อมูลได้ดีพอสมควร (-
2
2LL=746.56, Cox & Snell R =.69, Nagelkerke R =.79)
2
17.4 สรุปและอภิปรำยผลกำรศึกษำตัวแบบท ำนำยพฤติกรรมกำรเลือกตั้งของคนไทย
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตัวแบบท านายพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของคนไทย
ใน พ.ศ. 2554 ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ และมีผลสรุปดังนี้
ปัจจัยสัมพันธ์กับพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งใน พ.ศ. 2554 แบบแบ่งเขต มีดังนี้
1.ปัจจัยสัมพันธ์กับการเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คือ มีความเชื่อมั่นต่อนายทักษิณ ชินวัตร
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มีภูมิภาคที่อาศัยในทุกภาคของประเทศยกเว้นในภาคใต้ และมี
พรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนทางความคิด
2.ปัจจัยสัมพันธ์กับการเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ คือ ความพึงพอใจต่อการท างานของ
รัฐบาลอภิสิทธิ์ ความเชื่อมั่นในตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีภูมิภาคที่อาศัยอยู่ในภาคใต้ รวมทั้งมีพรรค
ประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนทางความคิด
ปัจจัยสัมพันธ์กับพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งใน พ.ศ. 2554 แบบบัญชีรำยชื่อ มีดังนี้
1.ปัจจัยสัมพันธ์กับการเลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย คือ ความเชื่อมั่นต่อนายทักษิณ ชินวัตร และ
พรรคเพื่อไทย มีภูมิภาคที่อยู่อาศัยอยู่ในภาคเหนือและภาคกลาง รวมทั้งมีพรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนทาง
ความคิด
2. ปัจจัยสัมพันธ์กับการเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ คือ ความพึงพอใจต่อการท างานของ
รัฐบาลอภิสิทธิ์ ความเชื่อมั่นในตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนทางความคิด
ผลการวิจัยพบว่าการเลือกตั้งเป็นการเลือกเพราะชอบเช่นเดียวกับที่เคยพบในงานวิจัยก่อนหน้า
(อรรถสิทธิ์ พานแก้ว, 2556a) เรายังคงพบว่าการเลือกพรรคการเมืองใดก็เพราะมีความเชื่อมั่นในพรรค
การเมืองและหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคนั้นๆ อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ก็
ตาม
การเลือกเพราะชอบนั้นสามารถอธิบายได้ว่าความชอบ ความเชื่อมั่นศรัทธานั้นแท้จริงแล้วเป็นไปตาม
ตัวแบบคุณค่าทางการเมือง (Valence Politics Model) ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้น าความนิยมและความเชื่อมั่น
ในหัวหน้าพรรคการเมืองและพรรคการเมืองมาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ (Heuristics) ในการออกเสียง
เลือกตั้งเพราะท าให้ประหยัดเวลาในการตัดสินใจ ท าให้ง่ายในการตัดสินใจ และท าให้เกิดความคล้องจองของ
ปัญญา (Cognitive consistency) ระหว่างเจตคติและพฤติกรรมอันเป็นค าอธิบายในทางจิตวิทยาสังคม หาก
เลือกพรรคการเมืองที่ตนเองไม่ศรัทธาจะเกิดความไม่คล้องจองของปัญญา (Cognitive dissonance) และจะ
ท าให้อึดอัดคับข้องใจ (L Festinger, 1 9 5 4 ; L. Festinger, 1 9 5 7 ; L. Festinger & Carlsmith, 1 9 5 9 )