Page 212 - kpi19903
P. 212
179
รูปที่ 11.1 แผนภาพกระเบื้องระหว่างเพศและพรรคการเมืองที่เลือก
11.2 อำยุกับพฤติกรรมกำรเลือกตั้งในระดับบุคคล
อายุน่าจะเป็นอีกปัจจัยที่น่าจะส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชน เนื่องจากมีความเป็นไป
ได้อย่างสูงที่ประชาชนแต่ละช่วงอายุ อาจจะมีความต้องการพื้นฐานและทัศนคติในการเลือกพรรคการเมืองที่
ชื่นชอบต่างกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอายุและพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชน
แล้ว กลับพบว่าอายุไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกตั้ง ทั้งในการลงคะแนนในระบบแบ่งเขต หรือการ
ลงคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อก็ตาม
การลงคะแนนเลือกผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว พบว่า
อายุเฉลี่ยของประชาชนที่จะเลือกผู้สมัครในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และอื่น ๆ ไม่แตกต่างกัน (F=
1.45, p=.235) โดยมีอายุเฉลี่ยเท่ากับ 49.8 ปี, 49.7 ปี, และ 51.1 ปี ตามล าดับ รายละเอียดดังตารางที่ 11.2
ในขณะที่การลงคะแนนเลือกผู้สมัครในระบบเขต ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวพบว่า
อายุเฉลี่ยของประชาชนที่จะเลือกผู้สมัครในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และอื่น ๆ ไม่แตกต่างกัน
เช่นเดียวกัน (F=2.09, p=.124) โดยมีอายุเฉลี่ยเท่ากับ 49.3 ปี, 50.0 ปี, และ 51.3 ปี ตามล าดับ รายละเอียด
ดังตารางที่ 11.2
สาเหตุที่ท าให้อายุไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกตั้งนั้น อาจจะอธิบายได้ว่า การลงคะแนน
เสียงเลือกผู้สมัครฯ ทั้งในระบบแบ่งเขตหรือบัญชีรายชื่อ เป็นพฤติกรรมการเลือกของประชาชนที่มาจากความ
ชื่นชอบหรือความเชื่อในนโยบาย/พรรคการเมือง/หรือในตัวผู้สมัคร ความชื่นชอบหรือความเชื่อเป็น
คุณลักษณะที่เฉพาะในแต่ละคนและส่งผลก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีในพรรคหรือผู้สมัคร (Fishbein and Ajzen,
1975, Ajzen, 1991) ดังนั้น ไม่ว่าประชาชนจะอายุมากหรือน้อย หากประชาชนชื่นชอบหรือนิยมพรรค
การเมืองใด พวกเขาจะมีความตั้งใจที่จะเลือกและไปลงคะแนนให้พรรคที่เขาชื่นชอบมากกว่า (อรรถสิทธิ์ พาน
แก้ว, 2556a)