Page 120 - kpi19903
P. 120
93
ตำรำงที่ 6.4 ผลการวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกท านายความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของคนไทย (วิธี
น าเข้าตัวแปรทั้งหมด)
β S.E.(β) Wald df p-value Odds 95% CI for Odds
Ratio Upper
Ratio Lower
ค่าคงที่ -1.42 0.73 3.81 1 .051 0.24
ความคาดหวังที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตนเลือก 1.06 0.55 3.72 1 .054 2.89 0.98 8.48
จะชนะ
การมีนักการเมืองที่เป็นตัวแทนความคิด 0.67 0.52 1.66 1 .198 1.96 0.70 5.45
การมีพรรคที่เป็นตัวแทนความคิด 0.15 0.49 0.09 1 .763 1.16 0.45 3.01
ความสนใจในการเลือกตั้งที่จะมาถึง 0.42 0.07 38.02 1 .000 1.52 1.33 1.74
การไปเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า 1.96 0.62 9.85 1 .002 7.08 2.09 24.06
ระดับการศึกษา -0.26 0.31 0.72 1 .397 0.77 0.43 1.40
ระดับรายได้ของครัวเรือน -0.06 0.24 0.07 1 .791 0.94 0.58 1.51
สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของครอบครัว -0.45 0.20 4.96 1 .026 0.63 0.42 0.95
2
2
X = 92.48, p-value < .001, -2LL = 221.65, Nagelkerke R = .32
(8)
ตำรำงที่ 6.5 ผลการวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกท านายความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของคนไทย (วิธี
Forward conditional)
β S.E.(β) Wald df p-value Odds 95% CI for Odds
Ratio Lower Ratio Upper
ค่าคงที่ -1.56 0.65 5.66 1 .017 0.21
การไปเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า 2.22 0.60 13.65 1 .000 9.18 2.83 29.76
ความคาดหวังที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตนเลือก 1.32 0.53 6.28 1 .012 3.74 1.33 10.49
จะชนะ
ความสนใจในการเลือกตั้งที่จะมาถึง 0.42 0.07 39.75 1 .000 1.52 1.34 1.74
สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของครอบครัวที่ผ่านมา -0.43 0.19 4.78 1 .029 0.65 0.45 0.96
2
X = 88.00, p-value < .001, -2LL = 226.13 Nagelkerke R2= .31
(4)
6.7 อภิปรำยผลและข้อเสนอแนะ
แม้ว่าระดับการศึกษา ระดับรายได้ต่อครัวเรือนจะไม่มีความสัมพันธ์ทางลบกับความตั้งใจที่จะไป
ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างมีนัยส าคัญ ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของครอบครัวมีความสัมพันธ์ทางลบ
กับความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ ซึ่งเป็นตามสมมุติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้ ท า
ให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนมากว่าคนมีการศึกษาสูง มีรายได้ดี มีสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของครอบครัวดีนั้น ไม่
สนใจจะไปออกเสียงเลือกตั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อประชาชนรู้สึกว่าปากท้องไม่มั่นคงหรือสภาพเศรษฐกิจของ
ครอบครัวไม่ดีพอแล้ว จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น แต่หากรู้สึกว่าตนเองปากท้องอิ่ม กลับไม่ต้องการไป
ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ให้เห็นถึงปัญหาอันน่าเป็นห่วงที่ฝังอยู่ในประเทศไทย กล่าวคือ ทั้ง ๆ ที่การศึกษาควร
จะช่วยเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมือง และท าให้ตระหนักถึงหน้าที่ของพลเมืองที่จะต้องในการมี
ส่วนร่วมทางการเมือง อย่างการไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่กลับสร้างเพียงความสามารถในการพึ่งพาตนเอง
ได้ เพิ่มระดับรายได้ และท าให้รู้สึกว่าสภาพเศรษฐกิจของตนและครอบครัวดีขึ้น จนท าให้เรื่องการเมืองเป็น
เรื่องไกลตัวเพราะไม่ส่งผลกระทบต่อการด าเนินชีวิต อาจจะมองว่าการไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งไม่ก่อให้เกิด