Page 107 - kpi19903

80

ใช้ท านายพฤติกรรมมนุษย์มาศึกษาพฤติกรรมการเมือง ซึ่งรวมถึงพฤติกรรมการเลือกตั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ทฤษฎีจิตวิทยาสังคม (Sniderman, Brody, & Tetlock, 1991)

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อน าทฤษฎีทางจิตวิทยามาอธิบายความสัมพันธ์หรืออิทธิพลของปัจจัยต่าง

ๆ ที่มีต่อพฤติกรรมการไปลงคะแนนเลือกตั้งของไทย ร่วมกับกรอบทฤษฎีทางสังคมวิทยา โดยคาดว่าจะอธิบาย
ปัจจัยต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กับความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (Behavioral intention to vote) ของคน

ไทยได้ดีกว่าแนวทางเดิม และเป็นแนวทางส าหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคการเมืองต่าง ๆ และหน่วยงานที่

เกี่ยวข้องของไทยน าไปปรับใช้ในการรณรงค์ให้คนไทยออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง น าไปสู่การพัฒนา
การเมืองของไทย รวมทั้งเป็นแนวทางในการศึกษาด้านการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการมีส่วนร่วมทางการ

เมืองในการออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

6.4 ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง

6.4.1 ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน (Theory of Planned Behavior: TPB)

ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน (I. Ajzen, 1985; I Ajzen, 1991; I. Ajzen, 1992, 2012) เป็นทฤษฎี

จิตวิทยาสังคมที่ขยายมาจากทฤษฎีการกระท าด้วยเหตุผล (Theory of reasoned action) (I Ajzen, 1988;
Fishbein & Ajzen, 1975) โดยเป็นทฤษฎีที่พยายามอธิบายพฤติกรรม (Behavior: B) ของมนุษย์ด้วยเจตนา

เชิงพฤติกรรม (Behavioral intention: BI) และเจตนาเชิงพฤติกรรมอธิบายได้ด้วยเจตคติ (Attitude: A) และ

การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง (Subjective norm: SN) ในขณะที่เจตคติอธิบายได้ด้วยความเชื่อเกี่ยวกับพฤติกรรม
(Behavioral belief: BB) และการประเมินผลกรรมของพฤติกรรม (Evaluation of behavioral belief: E)

เจตนาเชิงพฤติกรรมอธิบายได้ด้วยความคิดเห็นของบุคคลอ้างอิง (Opinions of referent others: O) และ

แรงจูงใจที่จะท าตามกลุ่มอ้างอิง (Motivation to comply to norms: MC) ดังสมการนี้

B   0   1 BI
BI    A  2 SN


0
1
J
A   0   1 BB j *E
j
j 1
K
SN   0   1 O k *MC
k
k 1
โดยที่ ,  , & เป็นจุดตัดแกน y ในการวิเคราะห์ถดถอย และ , ,   , & เป็น ค่า
0 0 0 0 1 1 2 1 1
สัมประสิทธิ์สมการถดถอย
แม้ว่าทฤษฎีการกระท าด้วยเหตุผลจะได้รับการยอมรับและน าไปใช้แพร่หลายในการท านายพฤติกรรม
แต่ในบางกรณี เช่น ในสภาพการณ์ที่ถูกจ ากัด เช่น มีข้อมูล ทักษะ ความสามารถ ไม่เพียงพอ มีสภาวะหรือ

ปัจจัยมาขัดขวาง ส่งผลให้เจตนาเชิงพฤติกรรมดังที่ได้กล่าวข้างต้นจะไม่มีอิทธิพลมากพอที่จะท าให้มนุษย์แสดง

พฤติกรรมที่แท้จริงออกมา