Page 8 - kpi19845
P. 8
และผู้ชายในสถานการณ์ความขัดแย้ง และประการที่สี่ เป็นมิติการมองการรวมกลุ่มของผู้หญิงในประเด็น
ขับเคลื่อนต่างๆ ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยที่มีความส าคัญเพื่อท าให้เห็นความแตกต่างในการรวมตัวกัน
ระหว่างกลุ่มผู้หญิงที่มีบริบททางสังคมที่แตกต่างกันไป เห็นบทบาทของผู้หญิงได้มากยิ่งขึ้น
การศึกษาวิจัยนี้เป็นการศึกษาทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า บทบาทของผู้หญิง
กับการลดความขัดแย้งในประเทศไทยในประเด็นต่างๆ เช่น ประเด็นทางการเมือง ประเด็นทางสิ่งแวดล้อม
ประเด็นทางสังคม มีมากน้อยแค่ไหนและการเชื่อมโยงบทบาทของผู้หญิงที่เกิดขึ้นในบริบทปัจจุบันจะเป็นไปใน
ทิศทางใดต่อไปเพื่อให้เกิดการพัฒนาบทบาทผู้หญิงที่เหมาะสมภายใต้โจทย์ที่ท้าทาย ด้วยเหตุนี้ สถาบัน
พระปกเกล้าจึงเห็นความส าคัญของการวิจัยชิ้นนี้เพื่อเป็นไปถึงประโยชน์ในการขับเคลื่อนประเด็นการลดความ
ขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม โดยมีผู้หญิงเป็นแรงขับและเป็นกลุ่มที่มีพลังในการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยแบบ Mix –Method หรือเป็นแบบผสมผสาน โดยในปีแรกของงานวิจัยเป็นการเก็บ
ข้อมูลเชิงปริมาณและในปีที่ 2 เป็นการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพโดยข้อมูเชิงปริมาณได้ผลการวิเคราะห์จากการ
เก็บแบบสอบถามดังนี้
ข้อมูลเชิงปริมาณจากข้อมูลค าถามในแบบสอบถามในภาพรวมทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 4 ภูมิภาค คือ
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้และภาคกลาง พบว่า เพศ ของผู้ตอบแบบสอบถามนั้นเป็นเพศ
หญิงมากกว่าเพศชาย โดยเพศหญิงมีจ านวนทั้งสิ้น 899 คน คิดเป็นร้อยละ 91.2 ส่วนเพศชายมีจ านวนทั้งหมด
84 คน คิดเป็นร้อยละ 2.9 นอกไปนี้ ยังมีผู้ตอบแบบว่าเป็น เพศอื่นๆอีก 3 คน คิดเป็นร้อยละ 0.3 ในด้าน อายุ
ของผู้ตอบแบบสอบถามนั้น พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 45-54 ปี ซึ่งมีจ านวนถึง 270 คน คิด
เป็นร้อยละ 27.2 รองลงมาคือ 36 - 44 ปี มีจ านวน 224 คน คิดเป็นร้อยละ 22.6 ส่วนอายุที่มีผู้ตอบ
แบบสอบถามน้อยที่สุด คือ 75 - 85 ปี มีจ านวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 1.3 ในด้านระดับการศึกษา พบว่า
ผู้ตอบแบบสอบส่วนใหญ่ มีการศึกษาอยู่ในปริญญาตรี จ านวน 421 คน คิดเป็นร้อยละ 42.4 รองลงมาคือ ระดับ
มัธยมปลาย ซึ่งมีถึง 164 คน คิดเป็นร้อยละ 16.5 และอับดับที่มีผู้ตอบแบบสอบถามน้อยที่สุดคือ ระดับอื่นๆ เช่น
อนุปริญญา มศ.5 มีเพียง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 1.2 ในเรื่องอาชีพ ของผู้ตอบแบบสอบนั้น พบว่า ส่วนใหญ่
ประกอบอาชีพอิสระของตนเอง มีจ านวนสูงสุด คือ 342 คิดเป็นร้อยละ 35.8 รองลงมาคือ ข้าราชการ/
เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีจ านวนถึง 258 คน คิดเป็นร้อยละ 27.0 และอาชีพที่มีผู้ตอบแบบสอบถามน้อยที่สุดคือ
องค์กรอิสระมีเพียง 31 คน คิดเป็นร้อยละ 3.2 เรื่อง การเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มต่างๆ นั้นพบว่าผู้ตอบแบบ
สอบส่วนใหญ่การเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มช่วยเหลือสังคม มีจ านวนถึง 438 คน คิดเป็นร้อยละ 48.8 รองลงมา
คือ กลุ่มอื่นๆ เช่นท่องเที่ยว ข้าราชการ พัฒนาสตรี ซึ่งมีจ านวนถึง 245 คน คิดเป็นร้อยละ 27.3 ส่วนการเข้า
เป็นสมาชิกของกลุ่มต่างๆ ที่น้อยที่สุดคือ กลุ่มทางวิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเพียง 56 คน คิดเป็นร้อยละ 6.2 เท่านั้น
นอกจากนี้ประสบการณ์ในการจัดการความขัดแย้งของผู้ตอบแบบนั้นพบว่า ผู้แบบสอบถามเคยเป็นผู้มี
ประสบการณ์ในการจัดการความขัดแย้งส าเร็จ มีจ านวน 246 คน คิดเป็นร้อยละ 25.4 ส่วนผู้ที่ตอบแบบ ไม่เคย
และไม่อยากมีส่วนร่วมในการจัดการความขัดแย้งนั้น มีจ านวน 397 คน คิดเป็นร้อยละ 30.7
8