Page 7 - kpi19845
P. 7

ไม่ประสบผลส าเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2558 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค. 58  เมื่อเวลา 09.35 น. ที่รัฐสภา  นางทิชา ณ

               นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดใจต่อเหตุผล
               ที่ลาออกจากต าแหน่ง สปช. และ กมธ.ยกร่างรัฐธรมนูญ ต่อสื่อมวลชน โดยมีเครือข่ายสตรี กมธ.ยกร่าง

               รัฐธรรมนูญ ได้แก่ นางถวิลวดี บุรีกุล , น.ส.สุภัทรา นาคะผิว , นายค านูณ สิทธิสมาน ให้ก าลังใจ ทั้งนี้ ทิชา ณ

               นคร กล่าวว่าการตัดสินใจลาออกจากต าแหน่งดังกล่าว เป็นเพราะหมดศรัทธาที่จะสื่อสารกับ กรรมาธิการยก
               ร่างรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก ในประเด็นการเพิ่มพื้นที่ทางการเมืองให้กับเพศหญิง ทั้งในสัดส่วนสภาท้องถิ่น

               และการส่งบุคคลลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แม้จะมีการประนีประนอม ปรับถ้อยค าจากเพศหญิง เป็น
               เพศตรงข้ามแล้ว แต่ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเพศชายผู้คัดค้านยังไม่ยอมรับเหตุผลดังกล่าว



                       อย่างไรก็ตามแม้ว่า กลุ่มสตรีพยายามที่จะมีบทบาทในการขับเคลื่อนประเด็นของสตรีและประเด็น
               ทางสังคมเพื่อลดความขัดแย้งในประเด็นต่างๆ และในปัจจุบันกลุ่มสตรีและบทบาทของสตรีในประเทศไทย

               พัฒนาไปอย่างมาก เนื่องจากผู้หญิงมีพื้นที่ในการ “ผู้เล่น ( player )” อยู่ในหลายสถานที่ทั้งในการท างานและ
               ในชีวิตสาธารณะ ( public life ) ในบางประเทศและบางสังคม ผู้หญิงมักจะถูกเกณฑ์หรือถูกบีบให้ออกมา

               ท างานในพื้นที่สาธารณะเช่นเดียวกับผู้ชาย เช่นออกมาเป็นแรงงานในตลาดแรงงานแบบเดียวกับผู้ชาย แต่การ

               ออกมามบีทบาทในพื้นที่สาธารณะของผู้หญิงในสังคมไทยมิได้ออกมาในฐานะ “ปลดปล่อย” ผู้หญิงให้เท่า
               เทียมกับผู้ชาย เนื่องจากวิธีคิดแบบชายเป็นใหญ่ยังกดทับ เบียดบังความเป็นหญิงให้ออกไปจากชีวิตสาธารณะ

               ตามความเหมาะสมยังคงด ารงอยู่ การเปลี่ยนแปลงแปลง ( transform ) สังคมโดยให้ผู้หญิงด ารงอยู่ในสังคม
               อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเท่าเทียมกับเพศอื่นในสังคม การที่จะปลดปล่อยผู้หญิงจากกับดักทางความ

               รุนแรงเชิงวัฒนธรรม ( cultural violence ) โดยระบบชายเป็นใหญ่ ซึ่งกระบวนการศึกษาเพื่อการปลดปล่อย

               และเข้าใจว่าผู้หญิงเข้ามีส่วนร่วมในการเป็นผู้เล่นและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในทางสังคมได้อย่างไร จ าเป็นต้อง
               เข้าใจเรื่องโครงสร้างอ านาจกับเพศสภาวะ และการน าไปสู่บทบาทเพื่อการแก้ไขความขัดแย้งในมิติต่างๆ


                       ส าหรับแนวคิดเรื่องสถานะผู้หญิงในพื้นที่ความขัดแย้งและความรุนแรงมักถูกให้ภาพในฐานะเหยื่อของ

               ความขัดแย้งมากกว่าการกลายสภาวะเป็นองค์ประธาน (subject) ที่มีบทบาทน าในการด าเนินงานและขจัด

               ปัญหาความรุนแรง  ทั้งการศึกษาเป็นจ านวนมากได้แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ความรุนแรงและผลกระทบที่
               มีต่อผู้หญิงแตกต่างไปจากผู้ชาย  อย่างไรก็ตาม แง่มุมในการท าความเข้าใจสภาวะเปลี่ยนผ่านจากการเป็นผู้

               ได้รับผลกระทบจากสงครามและความขัดแย้งทั้งโดยตรงและโดยอ้อมแล้วด าเนินไปสู่ขั้นของการสร้างสันติภาพ

               ของผู้หญิง


                       งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการเข้าใจบทบาทของผู้หญิงในกระบวนการลดความขัดแย้ง  4
               ประการอันจะน าไปสู่ สภาวะที่ปกติสุข ประการแรกการเข้าไปมีบทบาทของผู้หญิงที่ส าคัญในการลดความ

               ขัดแย้งประเด็นต่างๆ ประการที่สอง เป็นการตรวจสอบปัจจัยการเข้าไปมีบทบาทของกลุ่มผู้หญิงในการลด

               ความรุนแรงในประเด็นต่างๆ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการอันส่งผลท าให้ความขัดแย้งลดลง ประการที่
               สาม สรุป อัตลักษณ์และความแตกต่างในรูปแบบการเข้าไปมีส่วนร่วมในการลดความขัดแย้งระหว่างผู้หญิง



                                                                                                         7
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12