Page 174 - kpi19815
P. 174
172 การคัดค้านผลการเลือกตั้งโดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 173
ผู้แทนราษฎรของผู้ได้รับเลือกตั้งเนื่องจากอาจถูกคัดค้าน เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่าระบบการตรวจสอบความชอบ
ได้ทุกเมื่อแม้จะปฏิบัติหน้าที่มาแล้วเป็นเวลานาน ด้วยกฎหมายของการเลือกตั้งของประเทศไทยขัดต่อเงื่อนไขดังกล่าว
3. การรับคำาร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งไว้พิจารณาจะต้อง อย่างชัดเจนถึง 5 ข้อ (ข้อ 1. 2. 3. 4. และ 6.) กล่าวคือ ขัดต่อข้อ 1.
ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภา เนื่องจากไม่มีการกำาหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิเสนอคำาร้องคัดค้าน
ผู้แทนราษฎร ผู้ถูกร้องจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือพ้น ผลการเลือกตั้ง ขัดต่อข้อ 2. เนื่องจากไม่มีการกำาหนดระยะเวลาในการ
จากตำาแหน่งก็ต่อเมื่อมีคำาวินิจฉัยถึงที่สุดให้ยกเลิกผล เสนอคำาร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง ขัดต่อข้อ 3. เนื่องจากกำาหนดให้
การเลือกตั้งเท่านั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีเมื่อศาลฎีกา
รับคำาร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขัดต่อข้อ 4. เนื่องจากกำาหนด
4. องค์กรที่มีอำานาจพิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทใน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งไม่ใช่องค์กรตุลาการมีอำานาจในการ
คดีเลือกตั้งจะต้องเป็นองค์กรตุลาการเท่านั้น เนื่องจาก วินิจฉัยชี้ขาดคดีเลือกตั้งซึ่งคำาวินิจฉัยดังกล่าวมีผลเป็นที่สุด ข้อต่อข้อ 6.
เป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายและมี เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งและศาลฎีกามักจะยกเลิกผลการ
กฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เลือกตั้งอันเนื่องมาจากการกระทำาความผิดของบุคคลอื่นซึ่งเป็นความผิด
รวมทั้งมีความเป็นกลางมากกว่าองค์กรอื่นๆ ในรัฐ
ที่ไม่กระทบต่อผลการเลือกตั้งอย่างมีนัยสำาคัญ
5. การพิจารณาคดีเลือกตั้งควรใช้ระบบไต่สวนเป็นหลัก
กล่าวคือ ศาลควรจะมีอำานาจในการแสวงหาข้อเท็จจริง ส่วนเงื่อนไขข้อ 5. ซึ่งเป็นเรื่องของการพิจารณาคดีโดยระบบ
ในคดีมากกว่าที่จะพิจารณาข้อเท็จจริงเท่าที่คู่ความเสนอ ไต่สวนนั้น แม้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะกำาหนดให้ศาลฎีกามีอำานาจ
เนื่องจากคดีเลือกตั้งส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ในการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดีเลือกตั้งได้เอง แต่จะต้องใช้สำานวนของ
อย่างมีนัยสำาคัญ นอกจากนี้ในกรณีที่ผู้ร้องมีสถานะเป็น คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นหลัก ดังนั้น การไต่สวนเพื่อแสวงหา
ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ร้องย่อมไม่มีอำานาจหรือโอกาสในการ ข้อเท็จจริงของศาลจึงเป็นกรณีของการหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากสำานวน
เข้าถึงข้อมูลบางอย่างได้ดีเท่ากับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ศาลจึง ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเท่านั้น แม้พอจะกล่าวได้ว่าการพิจารณา
ควรมีบทบาทในการแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อรวบรวมข้อมูล คดีเลือกตั้งโดยศาลฎีกาใช้ระบบไต่สวน แต่ด้วยเงื่อนไขดังกล่าวย่อม
ที่มีผลต่อการวินิจฉัยได้อย่างครบถ้วน ทำาให้อำานาจในการไต่สวนของศาลฎีกามีขีดจำากัดอย่างยิ่ง
6. การวินิจฉัยยกเลิกผลการเลือกตั้งจะต้องเป็นผลมา ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของงานวิจัยชิ้นนี้จะเป็นการใช้เงื่อนไข
จากความบกพร่องหรือความไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ส่ง ทั้ง 6 ประการข้างต้นเป็นหลักในการปรับปรุงแก้ไขระบบคดีเลือกตั้ง
ผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อผลการเลือกตั้งหรือความ ของประเทศไทย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นอกเหนือจากเงื่อนไขทั้ง 6 ข้อ
ชอบธรรมของการเลือกตั้งเท่านั้น จะเป็นการปรับเปลี่ยนบทบัญญัติแห่งกฎหมายเลือกตั้งของประเทศไทย