Page 67 - kpi19164
P. 67
กำรถือครองเพื่อกำรเกษตรทั้งหมดมูลค่ำกำรส่งออกข้ำวในสถำณกำรณ์ปกติมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ
52
70 ของกำรส่งออกทั้งหมด แต่ด้วยภำวกำรณ์ซบเซำทำงเศรษฐกิจมีผลต่ออุปสงค์กำรน ำเข้ำข้ำว ท ำ
ให้รำคำตกต่ ำลงอย่ำงต่อเนื่อง อัตรำกำรขยำยตัวของกำรส่งออกก็ลดต่ ำลง รำคำข้ำวตกต่ ำลงถึง 2
ใน 3 รำคำที่ดินลดลงเหลือ 1 ใน 6 ซึ่งต่อเนื่องมำนับตั้งแต่สงครำมโลกครั้งที่ 1 จำกภำวะเช่นนี้ ได้
ส่งผลต่อภำวะหนี้สินของชำวนำมีเพิ่มมำกขึ้น
ผลจำกกำรส ำรวจภำวะทำงเศรษฐกิจของนำยซิมเมอร์แมน ในช่วงปี พ.ศ. 2473 – 2474
53
กล่ำวไว้ใน รายงานการส ารวจเศรษฐกิจในชนบทแห่งสยาม (Siam, Rural Economic Survey
1930 – 1931) ท ำให้สรุปประเด็นส ำคัญได้ 2 ประเด็น คือ (1) ปัญหำหนี้สินของชำวนำไทยในปี
2473 ที่ชำวนำประสบปัญหำหนี้สิน เนื่องจำกภำวะเศรษฐกิจที่ตกต่ ำท ำให้ชำวขำดทุนในกำรท ำนำ
เพรำะรำคำข้ำวตกต่ ำแต่อัตรำดอกเบี้ยกู้ยืมอยู่ในระดับสูง ท ำให้มีหนี้เพิ่มสูงขึ้น และด้วยกำรปรับตัว
ของชำวนำจำกกำรผลิตเพื่อยังชีพมำเป็นกำรผลิตเพื่อกำรค้ำ ชำวนำส่วนใหญ่ไม่ค่อยช ำระหนี้ที่ค้ำงไว้
จะช ำระเฉพำะดอกเบี้ยในแต่ละปีเท่ำนั้น (ไม่มีกำรสะสมทุนเพื่อกำรลงทุน แต่กลับน ำก ำไรที่ได้ไปใช้
จ่ำยอื่นๆ ที่ไม่ใช่กำรลงทุน) เมื่อเกิดภำวะเศรษฐกิจตกต่ ำและรำคำตกต่ ำลงอย่ำงรวดเร็ว ท ำให้
ชำวนำเหล่ำนี้ตั้งรับกับสถำนกำรณ์ไม่ทัน ท ำให้หนี้สินชำวนำเพิ่มขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤต และ (2)
ปัญหำที่ดิน ซึ่งกำรส ำรวจได้พบว่ำ อัตรำกำรที่ชำวนำไร้ที่ดินมีสูง (เนื่องจำกกำรมีหนี้สิน) และมีเจ้ำ
ที่ดิน (absentee landlords) ที่สะสมที่ดินโดยที่มิได้ท ำกำรเพำะปลูก ส่วนใหญ่เจ้ำที่ดินเหล่ำนี้อำศัย
54
อยู่ในเมืองใหญ่ และกลุ่มนี้ที่เป็นนำยหน้ำที่ปล่อยเงินกู้ให้กับชำวนำ ซึ่งมีอัตรำดอกเบี้ยที่สูง เมื่อ
ชำวนำไม่สำมำรถช ำระหนี้สินที่ยืมมำได้ ต้องสูญเสียกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับนำยหน้ำปล่อยเงินกู้เหล่ำนี้
ผลจำกกำรส ำรวจครั้งนี้ ได้มีข้อเสนอให้รัฐบำลสยำมขยำยและเพิ่มสำขำของสหกรณ์ เพื่อ
จัดหำทุนให้ชำวนำกู้ยืม และท ำหน้ำที่สั่งสอน แนะน ำชำวนำให้รู้จักกำรเพำะปลูกเพื่อกำรค้ำ ซึ่ง
สหกรณ์ที่อยู่ภำยใต้กำรดูแลของเจ้ำหน้ำที่รัฐ ท ำหน้ำที่ให้เงินกู้ แนะน ำให้ควำมรู้เชิงพำณิชย์ และ
ควบคุมเงินกู้ ตลอดจนกำรใช้จ่ำยของชำวนำ ด้วยเหตุนี้ คณะส ำรวจได้เสนอให้ ขยำยกิจกำรสหกรณ์
52 พอพันธ์ อุยยำนนท์, เศรษฐกิจไทยในสมัยรัชกาลที่ 7: รักษาเสถียรภาพ ปูพื้นฐานการพัฒนา, น.30.
53 ดร.คำร์ล ซี. ซิมเมอร์แมน เป็นศำสตรำจำรย์ทำงสังคมวิทยำ มหำวิทยำลัยฮำร์วำร์ด สหรัฐอเมริกำ เมื่อ พ.ศ.2473 รัฐบำลสยำม
ในช่วงปลำยรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลที่ 7 ได้เชิญนำยซิมเมอร์แมนเข้ำมำท ำกำรส ำรวจสภำพเศรษฐกิจ
ของชนบทสยำม สืบเนื่องมำจำกสภำวะเศรษฐกิจตกต่ ำทั่วโลก พ.ศ.2472 – 2477 (Great Depression 1929 – 1934) เศรษฐกิจ
ตกต่ ำทั่วโลกเป็นภำวะควำมปั่นป่วนครั้งใหญ่ที่สุดในโลกสมัยใหม่ ซึ่งมีสำเหตุมำจำก (1) ผลกำรเกษตรที่เกิดขนำด และ (2) วิกฤตกำร
คลัง อ้างใน คำร์ล ซี. ซิมเมอร์แมน, แปลโดย ซิม วีระไทยะ, (2525), การส ารวจเศรษฐกิจในชนบทแห่งสยาม, น. (1) – (2).
54 จำกกำรส ำรวจของนำยซิมเมอร์แมน อัตรำดอกเบี้ยที่ต้องเสียให้กับนำยหน้ำปล่อยเงินกู้ ในภำคกลำงร้อยละ 15 ถึง 30 ต่อปี เฉพำะ
ในธัญบุรีสูงถึงร้อยละ 50 ถึง 60 ในภำคเหนืออัตรำดอกเบี้ยร้อยละ 15 – 24 ต่อปี ในภำคใต้และภำคตะวันออกเฉียงเหนืออัตรำ
ดอกเบี้ยร้อยละ 24 ถึง 36 อ้างใน คำร์ล ซี. ซิมเมอร์แมน, แปลโดย ซิม วีระไทยะ, (2525), การส ารวจเศรษฐกิจในชนบทแห่งสยาม,
น.118..
58