Page 71 - kpi19164
P. 71

จัดตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 10 แห่ง เนื่องจำกได้รับกำรขยำยวงเงินกู้จำกธนำคำรสยำมกัมมำจลอีก 200,000
                   บำท รวมกับเงินทุนที่มีอยู่เดิมอีก 300,000 บำท รวมเป็น 500,000 บำท และได้ก ำหนดจ ำนวนเงิน

                   120,000 บำท ไว้ขยำยงำนสหกรณ์ในจังหวัดลพบุรีและพิษณุโลก  ซึ่งต้องให้ทุนสหกรณ์ละ 6,800

                   บำท ตั้ง 10 สหกรณ์เป็นเงิน 68,000 บำท และส ำหรับพิษณุโลกใช้ทุนสหกรณ์ละ 5,200 บำท ตั้ง
                                                  59
                   10 สหกรณ์ เป็นเงิน 52,000 บำท  เงื่อนไขส ำคัญอีกประกำรหนึ่งที่ท ำให้กำรขยำยกำรจัดตั้ง
                   สหกรณ์มำกในช่วงนี้ เกิดจำกในปี พ.ศ. 2471  รัฐบำลได้ประกำศยกเลิกพระรำชบัญญัติเพิ่มเติม

                   สมำคม พ.ศ. 2459 และประกำศใช้พระรำชบัญญัติสหกรณ์ขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภำคม พ.ศ. 2471
                                                                                            60
                   พระรำชบัญญัติฉบับนี้ได้เปิดโอกำสให้สำมำรถรับจดทะเบียนสหกรณ์ประเภทอื่น ๆ  ได้อย่ำง
                   กว้ำงขวำง  จนมำถึง พ.ศ. 2472 สหกรณ์ทั้งประเทศขยำยได้ถึง 128 แห่ง สมำชิกทั้งสิ้น 2,157 คน
                            61
                   จ ำนวนเงินที่สมำชิกกู้ไปจำกสหกรณ์ในช่วง พ.ศ. 2472 เป็นเงินทั้งสิ้น 511,365.78  เหตุที่สำมำรถ
                                                                                        62
                   ขยำยกำรจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นใหม่ได้ เพรำะว่ำได้เงินกู้จำกธนำคำรสยำมกัมมำจลอีก 500,000 บำท

                   รวมกับเงินทุนที่มีอยู่เดิมเป็นเงิน 1,000,000 บำท ใน พ.ศ.2472 กรมสหกรณ์สำมำรถขยำยสหกรณ์

                                                                                        63
                   ออกไปได้ 37 แห่งในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ สระบุรี อ่ำงทอง อุตรดิตถ์ และพิจิตร  รวมกับอีก 3
                   จังหวัดที่ตั้งก่อนหน้ำนี้ คือ พิษณุโลก ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยำ และรวมสหกรณ์ทั้งหมดจ ำนวน

                   128 สมำคม รวมจ ำนวนสมำชิกทั้งหมด 2,157 คน คิดเฉลี่ยสหกรณ์ละ 17 คน และจ ำนวนเงินที่

                   สมำชิกกู้ไปทั้งหมดในช่วงปี พ.ศ. 2472 คือ 511,365.78 บำท ซึ่งกำรขยำยตัวของสหกรณ์ที่เกิดขึ้น
                   ในช่วงเวลำนี้ เหตุผลส ำคัญมำจำกกำรสนับสนุนเงินจ ำนวน 500,000 บำทจำกธนำคำรสยำมกัมมำจล







                   59  กองจดหมำยเหตุแห่งชำติ, กส. 15.2/8 กำรปรับปรุงกิจกำรสหกรณ์ พ.ศ. 2471. อ้ำงใน ปรำณี กล่ ำส้ม, (2529) “กำรแก้ปัญหำ
                   เศรษฐกิจที่เกี่ยวกับชำวนำโดยวิธีกำรสหกรณ์ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัวและพระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำ
                   เจ้ำอยู่หัว”, หน้ำ 101.
                   60  พระรำชบัญญัติฉบับนี้ได้เปิดโอกำสให้มีกำรจัดตั้งชุมชนสหกรณ์ได้ โดยมีเสนำบดีกระทรวงพำณิชย์และคมนำคม รักษำกำรตำม
                   พระรำชบัญญัตินี้ และได้ใช้เป็นกฎหมำยควบคุมและวำงแนวทำงกำรจัดตั้งสหกรณ์มำจนถึง พ.ศ.2511 เป็นเวลำกว่ำ 40 ปี
                   61  ผลจำกพระรำชบัญญัติ พ.ศ.2471 ท ำให้กิจกำรสหกรณ์ขยำยไปอีกหลำยจังหวัด คือ เชียงใหม่ แพร่ สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรำ
                   นครนำยก เพชรบุรี รวมกำรจัดตั้งทั้งหมด 16 จังหวัด เมื่อสิ้น พ.ศ.2477 มีสหกรณ์ที่จัดตั้งขึ้นจ ำนวน 440 แห่ง มีสมำชิก 6,324 คน
                   ใน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, วิวัฒนำกำรด้ำนกำรเกษตรกรุงรัตนโกสินทร์, หน้ำ 79 อ้ำงใน ปรำณี กล่ ำส้ม, (2529) “กำร
                   แก้ปัญหำเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับชำวนำโดยวิธีกำรสหกรณ์ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัวและพระบำทสมเด็จ
                   พระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัว”, หน้ำ 105.
                   62  ปรำณี กล่ ำส้ม, (2529) “กำรแก้ปัญหำเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับชำวนำโดยวิธีกำรสหกรณ์ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำ
                   เจ้ำอยู่หัวและพระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัว”, หน้ำ 101-102.
                   63  กองจดหมำยเหตุแห่งชำติ, เอกสำร กส.15.2/6/1 กองเลขำนุกำร สภำเผยแพร่พำณิชย์ พ.ศ.2469 อ้ำงถึงใน อ้ำงใน ปรำณี กล่ ำส้ม,
                   (2529) “กำรแก้ปัญหำเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับชำวนำโดยวิธีกำรสหกรณ์ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัวและ
                   พระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัว”, หน้ำ 101.

                                                            62
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76