Page 139 - kpi18630
P. 139
และแล้ว วันนั้นเป็นวัดพระใหญ่ขึ้นสิบห้าค�่า เจ้าอาวาสและพระทั้งวัดขึ้น
มาพร้อมกันแล้วบนศาลา ชาวบ้านมากันหนาแน่นเป็นพิเศษ และดั่งเช่นทุกครั้ง...
พิธีกรรมจะยังไม่เริ่มหากยังไม่มี ‘ท่านรองเจ้าอาวาส’
แต่แล้วขณะที่ทุกคนก�าลังพูดคุยกันอย่างครื้นเครง หน้าตาเบิกบานแจ่มใส
เอิบอิ่มบุญกุศล ทักทายหยอกเล่นกัน เพื่อฆ่าเวลารอน้าบาวไก่รุนร่างแม่มาร่วมไหว้
พระฟังเทศน์ จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเหมือนเสียงวัวร้อง เสียงดังและดังขึ้นเรื่อยๆ
กลายเป็นความโหยหวนชวนขนลุก เป็นเสียงที่ดังมาจากบ้านน้าบาวไก่ และพอทุก
คนหยุดฟังอย่างพินิจพิเคราะห์จึงรู้ว่าเป็นเสียงร้องของน้าบาวไก่
พระภิกษุชราเจ้าอาวาสใช้ให้พระใหม่ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ชาวบ้านหลาย
คนร่วมตามไปดูเหตุการณ์ด้วย ภาพที่เห็นเมื่อทุกคนไปถึง คือน้าบาวไก่นั่งอยู่ข้าง
เตียงแม่ เอาหน้าไปซบบนร่างแม่ที่นิ่งสนิท ร้องไห้เสียงดังลั่นอย่างไม่กลัวฟ้าไม่กลัว
ดิน ทุกคนที่ไปไม่กล้าแม้จะเข้าไปพูดอะไร เหมือนต่างรู้ดีกว่า มวลพลังความรัก
กตัญญูทั้งหมดได้พรูพลั่งออกมาเป็นสายน�้าตาและเสียงร้องไห้อยู่ในขณะนั้น ทุกคน
ไม่อาจจะสกัดกลั้นน�้าตาเอาไว้ได้ ต่างหลั่งรวมเป็นสายธารเมตตารินไหลมอบให้คน
ปัญญาอ่อนแห่งหมู่บ้านทางควายที่นั่งกอดร่างแม่อยู่ตรงหน้า
งานศพแม่น้าบาวไก่ถูกจัดขึ้นที่วัด เจ้าอาวาสให้ช่างเลื่อยไม้กระท้อนต้น
ท้ายวัดส�าหรับเอาไม้ท�าเป็นโลงศพ ช่างชัยคนท�าลายข้างโลงมาติดลายประดับ
ตกแต่งให้พร้อมลูกมืออีกสามคน ช่างด�ารงค์แทงหยวกมาร่วมประดับชั้นรองโลงศพ
ด้วยลายแทงหยวกอย่างวิจิตรสวยงาม ผู้คนหลั่งไหลมารดน�้าศพ และค�่านั้นเองโลง
ศพก็เสร็จสิ้น วางกลางศาลาการเปรียญมีดอกไม้ประดับจากฝีมือครูและนักเรียนมา
ช่วยประดับ เสร็จก่อนที่บรรดาลูกๆ ของแม่น้าบาวไก่อีกสองคนรีบด่วนนั่งเครื่อง
บินมาลงที่สนามบินในตัวจังหวัดแล้วเดินทางมาถึงทันได้น�าร่างแม่ใส่โลง
เมื่อน้องๆ ทั้งสองของน้าบาวไก่เดินทางมาจัดการงานศพแม่ในแบบที่พวก
ตนอยากให้เป็น คือพร้อมรองรับเกียรติเจ้านายมียศมีต�าแหน่งที่จะมาร่วมงาน
มีการขอพระราชทานเพลิงศพ และตบแต่งที่ตั้งศพด้วยร้านดอกไม้ที่ถูกจ้างมาเป็น
พิเศษ
138 ÇÃó¡ÃÃÁàÃ×èͧÊÑé¹ “¾ÅàÁ×ͧ¡íÒÅѧä·Â”
01-288 Power of Thai People_Edit.indd 138 21/3/2561 BE 10:00