Page 250 - kpi18358

 การเลือกพื้นที่หน่วยรับตรวจควรเลือกพื้นที่ที่เป็นทั้งดีเด่นส าเร็จ ปานกลาง และพื้นที่อ่อนแอ ลง

ตรวจตัวแทนพื้นที่ทั้งหมดก็ท าให้ได้รู้ทั้งผลส าเร็จและสภาพปัญหาส่วนพื้นที่อ่อนแอก็ได้รับการ

ดูแลด้วย

 ประเด็นการตรวจราชการถูกก าหนดมาจากส่วนกลาง ไม่เหมาะกับบริบทบางพื้นที่ ควรมีการ

ก าหนดให้เหมาะสมกับบริบทพื้นที่

 ข้อมูลที่รายงานต่อการตรวจราชการไม่เป็นของจริง หลังจากการตรวจแล้วก็ควรสรุปและบอกไว้

เลยว่าครั้งหน้าจะมาตรวจอะไร ที่ปรึกษาจะได้เตรียมสอดส่องและข้อมูลส าหรับการตรวจครั้ง

ต่อไป

 ข้อปฏิบัติหลังบัตรประจ าตัวของที่ปรึกษาฯภาคประชาชน ข้อแรกเขียนว่าใช้ในการตรวจราชการ

ร่วมกับส านักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงต่าง ๆ แสดงว่าไม่สามารถท าหน้าที่ที่ปรึกษาฯภาค

ประชาชนได้ในเวลาอื่นนอกเหนือจากการตรวจร่วมกับผู้ตรวจราชการ

 การสร้างการรับรู้ความร่วมมือแก่หน่วยรับตรวจเป็นเรื่องที่ส าคัญ ต้องท าให้ประชาชนมีส่วนรับรู้

ท้องถิ่นต้องรู้ความต้องการของประชาชนอย่างละเอียดรอบคอบแล้วจึงตั้งเป็นโครงการขึ้นมา เรื่อง

ที่ควรท าอย่างมากคือประสิทธิภาพของ อปท.เพราะหากท าได้เรื่องอื่นก็จะไปได้หมดโดยให้

ประชาชนมารับรู้และร่วมมือ หากทุกคนเข้าใจและรับรู้ไปในทิศทางเดียวกันก็จะลดปัญหาได้มาก

ประเด็นสรุปอื่น ๆ

 รูปแบบการน าเสนอที่ทุกหน่วยงานในจังหวัดเป็นผู้อ่านรายงาน บางหน่วยงานเสนอของตนเอง

เสร็จแล้วก็เดินออกไป ท าให้ไม่เห็นภาพการบูรณาการ หลายหน่วยงานมาน าเสนอก็ใช้เวลามาก

ควรใช้เวลาให้น้อยกว่านี้

 การตรวจราชการแต่ละครั้ง ควรมีการก าหนดวัตถุประสงค์ ทิศทางการตรวจ ตรวจเช็คอะไรบ้าง จะ

ให้แก้ไขอะไร เพื่อให้รู้ว่าจะตรวจอะไรบ้าง การลงตรวจของกระทรวงใดก็ตาม ควรเชิญที่ปรึกษาฯ

ภาคประชาชนด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านของตนเองด้วย

 การตรวจราชการควรตรวจผลส าเร็จของงาน ไม่ใช่การตรวจดูว่าท าไปแล้วเท่าไหร่ หากวัดจาก

ความส าเร็จของงานจะท าให้เกิดการบูรณาการ

 เห็นว่าผู้ตรวจราชการไม่จ าเป็นต้องลงพื้นที่กันเป็นจ านวนมาก ไม่ควรไปกันแบบคณะใหญ่เพราะ

การลงพื้นที่บางครั้งเป็นซอยแคบและหลงทางกันไปมา

207