Page 234 - kpi18358

มีอ านาจมากกว่าผู้ว่าราชการ เพราะที่ผ่านมาผู้ตรวจราชการส านักนายกและผู้ว่าราชการอยู่ระดับเดียวกัน ท า

ให้ไม่ได้รับความใส่ใจ หากผู้ตรวจราชการมีอ านาจในระดับที่มากกว่าก็น่าจะได้รับความสนใจมากขึ้น

นอกจากการให้มี super ผู้ตรวจราชการแล้ว ต้องมีสถาบันการอบรมต้องไปคู่กันด้วย และไม่ควรเป็นสถาบัน

อบรมแต่น่าจะเป็นองค์กร องค์กรนี้ควรต้องมีผู้ตรวจราชการจากทุกกระทรวงมาอยู่รวมกัน แล้วแบ่งคลัส

เตอร์ตามความเชี่ยวชาญแล้วหมุนความเชี่ยวชาญหมุนวนไป จากนั้นผู้ตรวจราชการทุกคนก็จะมีความเป็น

มืออาชีพได้ แต่ไม่ใช่ว่าเข้ามาแล้วก็เกษียณไปเสียก่อน เมื่อมาเป็นผู้ตรวจแล้วต้องสามารถขึ้นเป็นอธิบดีได้
ด้วย

1.1.2 การเข้าสู่ต าแหน่งและการเป็นผู้บริหารสูงสุด

 ผู้ตรวจราชการที่มีที่มาหลากหลายเป็นสิ่งดีเพราะท าให้ตรวจได้หลากหลายแต่เมื่อ

เข้ามาแล้วระบบมีมาตรฐานเพียงใด ในระดับกระทรวงนั้นผู้ที่จะไปเป็นอธิบดีต้องเป็นผู้ตรวจราชการอยู่

แล้ว ก็ถือว่าเป็นการเลื่อนต าแหน่ง (Promote) ไปในตัว ถือว่าการเข้ามาสู่ต าแหน่งผู้ตรวจส านักนายกนั้นไม่

น่าเป็นห่วง ที่ห่วงคือการรักษามาตรฐานการท าหน้าที่

 การตรวจราชการแบบบูรณาการ จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างผู้ตรวจราชการ

ที่มาจากคนละหน่วยงานกัน

1.1.3 ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการมืออาชีพ อาจแบ่งเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจฝ่ ายบริหารและฝ่ ายวิชาการ

 การก้าวขึ้นมาเป็นผู้ตรวจราชการ ควรมีสายความก้าวหน้ามาจากผู้ช่วยผู้ตรวจ

ราชการด้วยเช่นกัน เพราะบางท่านอาจเคยเป็นผู้บริหารแต่ไม่เคยเป็นผู้ตรวจราชการมาก่อนก็จะไม่รู้เรื่อง

และเป็นปัญหาในขั้นตอนการตรวจราชการด้วยเช่นกัน และผู้ตรวจราชการเองก็ไม่ได้มีความรู้เฉพาะในแต่

ละเรื่อง ก็ใช้วิธีแบบไม่เป็นทางการแก้ไขปัญหาโดยการสอบถามจากเพื่อน การแก้ปัญหาก็อาจใช้การอบรม

เรื่องเฉพาะทาง และการมีพี่เลี้ยง ต้องใช้เวลาในการพัฒนา
 ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการควรมีการก าหนดระยะเวลาในการท างาน ไม่ควรให้เป็น

ผู้ช่วยตั้งแต่ต้นจนเกษียณราชการ เพราะบางท่านก็มีความสามารถควรได้รับความก้าวหน้าในสายอาชีพไป

เป็นผู้ตรวจราชการได้ ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการควรมีความสามารถใน 2 ส่วนได้แก่ ความสามารถด้านระบบ

ข้อมูลหรือวิชาการ และในด้านอ านวยการคือท าหน้าที่ในการประสานความสะดวก

191